วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

มีพัสดุมาส่ง....ชอบอมกันมั้ยยยยยย ภาค 2

ช่วงที่ผมหาข้อมูล มีอีกคนนึงที่เป็นแรงบัลดาลใจคือ แสตมป์ ตัวแสตมป์ใช้กีตาร์สั่งทำทรง OOO ซึ่งเดิมผมมีทรง Dreadnought อยู่แล้ว

ขอย้อนไปนิดกีตาร์โปร่งหลักๆมีอยู่ดังนี้


1.ทรง Dreadnought ทรงนี้เล่นใด้กว้างสุด และทุกแนวแต่ไม่ที่สุด


2.ทรงJumbo ทรงนี้ balance ดีกว่าทรงแรก และดังกว่า เหมาะสำหรับเล่นสตรั้มคอร์ด


3.ทรงOOO/OM เป็นทรงเล็กสุด เหมาะกับการเล่นแบบ fingerstyle เพราะเสียง balance ดีมากและเบสไม่บวม

ปล.ขอบคุณข้อมูลจากเวปนิมิตกีตาร์ครับ ^_^



ย้อนกลับที่แสตมป์...จากการหาข้อมูลอันน้อยนิดก็ทราบว่าตัวที่แสตมป์ใช้นั้น เป็นกีตาร์สั่งทำชื่อ ช่างแหลม ซึ่งผมก็ไม่สามารถหาข้อมูลได้เลยว่า ช่างแหลมเป็นใคร อยู่ที่ไหน???

จากนั้น ผมก็ไปหาข้อมูลช่างทำกีตาร์คนอื่นๆในเวปบ้านสีฟ้า ก็พบว่ามีช่างทำกีตาร์ที่น่าสนใจอยู่หลายคนทีเดียว บางคนก็มีรุ่นและแบบเป็นของตัวเองอยู่แล้ว บางคนก็รับทำตามสั่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องไม้และทัศนคติของผู้ทำและผู้รับทำก็เป็นส่วนนึงที่สำคัญ

ผมเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับการสั่งทำกีตาร์ไฟฟ้า ตอนนั้นบอกตรงๆว่า หน้าตาออกมาไม่ได้อย่างที่คิด เสียงก็ไม่ใช่ แต่...ในเมื่อเราสั่งไปแล้ว จ่ายเงินไปแล้วก็ต้องรับสภาพไป

ในตอนนี้ก็ไม่อยากมีความรู้สึกแบบนั้นอีก เพราะเราควบคุมปัจจัยเหล่านั้นไม่ได้ จึงข้ามมาที่กีตาร์สายโรงงานผลิตทั่วไปแทน

ขอมาเรื่อง Burn กีตาร์โปร่งนิด...เป็นสูตรที่ผมดัดแปลงมาจากอุปกรณ์ตัวนึง มันคือ PrimeVibe เป็นเครื่องสร้างแรงสั่นสะเทือน \สำหรับกีตาร์ หลักการทำงานคือ เครื่องจะสั่นสะเทือนไปตรงไม้หน้าให้กระเพื่อมเป็นจังหวะๆ ทำให้ไม้สั่นในจังหวะที่เหมาะสม สม่ำเสมอ ทำให้เสียงออกมาชัดเจนทุกตัวโน๊ต(กรณีพื้นฐานของกีตาร์นั้นๆดีด้วยนะครับ

ทีนี้จากพุทธปัญญาอีกแล้ว ผมก็มานั่งนึกๆว่า ไอ้การทำงานของเครื่องนี้ เราจะสามารถเลียนแบบด้วยอะไรได้มั่งหว่า???? คิดไปคิดมาก็มีวิธีนึงที่น่าจะใกล้เคียงและใช้ได้ดีด้วย

มีฝรั่งเค้าบอกว่า โรงงานกีตาร์โปร่งเล็กๆในอเมริกาจะเปิดเพลงให้กีตาร์ฟัง

ถามว่า เปิดเพื่ออะไร? กีตาร์โปร่งใหม่ๆแม้จะผ่านการอบมาแล้ว แต่การสั่นสะเทิอนของไม้จากการเล่นยังมีน้อยอยู่มากๆ เค้าก็ใช้วิธีการนี้เพื่อช่วยกระตุ้นให้ไม้มันสั่นสะเทิอนได้ดีขึ้น ส่วนเพลงแนวไหนนี่ผมไม่ทราบเหมือนกัน


เหมือนกับการเบิร์นกีตาร์ไฟฟ้า หรือสายCable แต่กีตาร์โปร่งตัวแรกที่บ้าน ผมก็ลองใช้สูตรนี้ดู ทั้งเปิดเพลงและเล่นกีตาร์ไฟฟ้า-คีย์บอร์ด โดยเอากีตาร์โปร่งมานั่งรับฟังด้วย ครั้งละ 2 ชั่วโมง ทดลองอยู่ 2 อาทิตย์

ผลการทดลอง ถือว่าได้ผลดีมากๆครับ คือ ไม้หน้ามันกระเพื่อมได้ที่ เสียงอวบอ้วน กลม กำลังดี ซึ่งตามโรงงานกีตาร์ฝรั่งเค้าคงเปิดกันเป็นเดือนแน่ๆ ใครจะเอาไปทำตามก็ไม่ว่ากันนะครับ

ขอตัดมาสรุปเลยละกัน ถ้าให้เทียบกับรุ่นต่างๆ ก็ขอตอบแบบความรู้สึกส่วนตัวดังนี้นะครับ

- 28V ถ้าผมจำไม่ผิดมันมีแต่ OM28Vนะ รุ่นนี้เป็นตระกูลVintage ข้อดีมันคือ คงความเป็น Martinตัวนึง และไม้ข้างและหลังเป็นrosewood ซึ่งตัวของผมกลิ่นไม้rosewoodจะแรงมากๆ และให้เสียงคม แต่นวล และเชฟ-คอน่าจะเข้ากับคนเอเชียได้ง่าย


แต่ด้วยความเป็น Martin ที่หากว่าต้องการความเป็นMartin คุณต้องเล่นตระกูลวินเท็จขึ้นไปซึ่งราคามันไม่งามเอาซะเลย ก็ดูว่า...คุณจำเป็นแค่ไหนกับกีตาร์โปร่งตัวนึง สำหรับผม ผมค่อนข้างซีเรียสกว่าไฟฟ้านะเพราะ
1.ไฟฟ้าถ้าเสียงไม่ดีทำไง? เปลี่ยนปิคอัพ , เดินสายเงิน , เปลี่ยนคาปาฯ ฯลฯ ...โปร่งทำไม่ได้
2.ไฟฟ้าอยากเปลี่ยนเสียงทำไง? ต่อเอฟเฟค...โปร่งทำไม่ได้
ดังนั้น สำหรับผมการซื้อมาลองแล้วขายทิ้งทีหลัง จึงไม่ตอบโจทก์ตรงนี้ อันนี้ส่วนตัวนะครับ


omjm อย่างที่บอกกระทู้ก่อนว่า ผมชอบนะ ชอบมากๆ คืองานสวยเนี้ยบ เกรดไม้สวย แต่...ราคามันแรงไป และเป็น Limited คำว่าลิมิเต็ดไม่ใช่ว่าดีนะ คือ เดิมทีเนี่ยคนที่บ้าและสะสม Martinกันเค้าจะเล่นพวก prewar คือรุ่นก่อนสงครามโลก , รุ่น golden era marquis หรือ พวกรุ่น vintage คือ Martinเนี่ยเค้าจะคัดเกรดไม้ตั้งแต่รุ่น 28 เป็นต้นไป หมายถึงความสวยงามของหน้าไม้ การอบไม้ แหล่งที่มาของไม้ ซึ่งรุ่นต่ำกว่านี้มีหลากหลายรูปแบบ เช่น ไม้เอามาอัดหลายๆชั้นแล้วขึ้นคอ หรือ วัสดุสังเคราะห์ต่างๆสำหรับคนงบน้อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น