ข้ามถนนกลับมาฝั่งห้างIONเหมือนเดิมเพื่อมาซื้อไอติม คนขายจะเป็นคนแก่ทั้งนั้น เข้าใจว่าเค้าพยายามหาอาชีพให้คนมีอายุได้เลี้ยงตัวเองนะครับ ไอติมที่นี่ส่วนมากเป็นของยี่ห้อวอลล์ ขายเป็นรถเข็นเหมือนบ้านเรา รสชาดก็ทั่วไปแต่ไม่มีเครื่องใส่อย่าง ถั่ว มัน ข้าวเหนียว ลักษณะคือจะเป็นไอติมแล้วมีขนมปังสองแผ่นประกบเหมือนแซนวิส
บนถนนออชาดจะมีกิจกรรมเยอะมาก อันนี้ก็เป็นส่วนนึง
นั่งซัดไอติมหน่อย
เดินผ่านอุโมงค์ลอดไปยังงงๆกับทางของเค้า เดินๆไปก็เจอรู้สึกราคามันก็เหมือนๆที่อื่นก็จบข่าว
ทีนี้...เหมือนผมจำสับสนหรือไงไม่ทราบ ว่า...ที่ร้านในเพนเนซูล่า พลาซ่า ราคาถูกกว่า ก็เลยลากสองคนนั้นไปด้วย เลยต้องมาตั้งต้นที่ Cityhallใหม่แล้วเดินไปอีกที
ไปถึงร้านปรากฎเฮียเจ้าของร้านปิดร้านไปกินข้าว(แปะโน๊ตบอกไว้) ก็ต้องเดินเล่นฆ่าเวลาไปก่อน ลงไปชั้นใต้ดินกะจะลองกีตาร์ ESP ที่ร้าน Davis เจออาเจ๊เจ้าของร้าน ถามโน่นถามนี่ มาทำไม? ดูอะไร? เอาอะไร? รำคาญโคตรๆเลยไม่ลองมันเลย
กลับขึ้นไปดูรองเท้า เวรกรรม...ราคาเท่าร้าน Sixty Three เป๊ะ แต่...รุ่นที่ถูกก็มีนะ 3,600 เป็นผ้าใบ(เหมือนรองเท้าแพนเลย 555) ดูราคาก็ยังถือว่าแพงอยู่ดี เลยไม่เอา ไปหลายที่แถมไม่ซื้อเมียด่าอีก T__T
ย้อนกลับมาที่ห้าง Raffle City ในสถานี Cityhall เสียพลังงานมาเยอะ แทบไม่ได้อะไรมาเลย คืนนี้เลยจัดชุดใหม่ ด้วยทาโกยากิเจ้าดัง(ชื่ออะไรจำไม่ได้ ที่เอสพลานาดก็มีนะ)
ชุดแขกที่เจี๊ยบใส่วันนี้ ตอนไปห้างเพนนิซูล่าเจอพวกแขกอินเดียผู้ชายเมาๆหน่อย แอบมอง อย่างฮา(บอกแล้วว่าอย่าใส่ 555)
สารพัดของทอดร้าน Old Chang Kee ปีกไก่ทอด กุ้งทอด หนวดปลาหมึกทอด และทาโกยากิ
สาหร่ายเถ้าแก่น้อยจากเมืองไทย ห่อละ 60 บาท - -"
ไก่เค้าอร่อยมากๆ เป็นเจ้าเดียวที่บ้านเราต้องอุดหนุนทุกวัน
กระเป๋าโน๊ตบุ๊คของเจ้านี้ เอามาใช้ทำงานแทนใบเก่าที่ขาดไป น้ำหนักเบามากๆ
กระเป๋าเจ้าปัญหาของน้องที่ทำงาน เราเจอร้านชาร์สเยอะมากแทบทุกที่ที่เราไป แต่ไม่รู้จะซื้อที่ไหนดี จนวันนี้เริ่มขี้เกียจสำรวจละ เลยซื้อมันซะที่Raffle Cityซะ เข้าไปเมียผมก็เงียบเหมือนเดิม เป็นภาระเราต้องสื่อสารกับคนขายอยู่พักใหญ่ ก็เลยได้ใบนี้มา ที่เมืองไทยใบละ 3 -4 พัน ที่นั่นแค่ 1,500 บาทเท่านั้น
รายการทีวีที่นี่ มีแยกเป็นช่องภาษาจีน มลายู อินเดีย อังกฤษชัดเจน
รายการทีวีที่นี่ มีแยกเป็นช่องภาษาจีน มลายู อินเดีย อังกฤษชัดเจน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น