และขึ้นตั๋วก่อน 1 ชั่วโมง บ้านเราอยู่ชานเมืองโตเกียวซึ่งใช้เวลาเดินทางเกือบๆชั่วโมงครึ่ง(เพราะที่
ญี่ปุ่นจำกัดความเร็ว วิ่งเกิน 80 ในเมืองไม่ได้) ทำให้ต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 บ้านเราเก็บกระเป๋าตั้งแต่วันศุกร์
และล่าสุดคือวันเสาร์สำหรับของชิ้นเล็กๆที่ซื้อเพิ่ม จึงเหลือแค่การเก็บของเล็กน้อยๆในเช้านี้
ออกจากบ้านตี 5 ครึ่งมาถึงสนามบินเกือบๆ 7 โมงครึ่ง(ขนาดมาทางด่วนนะ) เคาเตอร์ยังไม่เปิดต้องเดิน
ไปเดินมาพักนึง จนแปดโมงเช้าถึงไปขึ้นตั๋วได้ ชั่งน้ำหนักกระเป๋าน้ำหนักเหลือเพียบแต่แค่นั้นก็แบกไม่ไหวแล้ว
จากนั้นก็เดินไปรอเตรียมขึ้นเครื่อง ผ่านร้านดิวตี้ฟรีมากมาย ราคาไม่เป็นใจเอาซะเลย แต่ก็ดูดเงินผมไปจนหมดกระเป๋า ระหว่างเรานั่งรอเครื่องเจอกลุ่มคนไทยกลุ่มใหญ่เหมือนมากับทัวร์ประมาณนั้น อาปูซื้อขนมมาให้เรารองท้องก่อนกลับอย่างข้าวปั้น แซนวิส ผมเสียเงิน 120 เยนสุดท้ายกับน้ำแร่จากตู้กดน้ำ(เพราะถูกสุดแล้ว)
ขึ้นเครื่องมา...คนไทยทั้งนั้น ยังกะนั่งการบินไทยยังไงยังงั้น กัปตันเที่ยวนี้ขับซึ่งน่าดู เรามาถึงเมืองไทยก่อนกำหนด 1 ชั่วโมงคือบ่ายโมงครึ่ง เสียเวลาเช็คกระเป๋าพักนึง ประมาณบ่าย 2 กว่ารถที่เราจ้างจะมารับก็บ่าย 3 (ตามเวลานัดปกติ) เป็นอันว่าสิ้นสุดการเดินทางอันแสนประทับใจ 9 วันในโตเกียวของผม
ท้ายนี้ขอขอบคุณ...
พ่อ-แม่ผม ถ้าไม่มีพ่อกับแม่ผมคงไม่ได้ไปเที่ยวในครั้งนี้
เจี๊ยบ-ปูเป้ ไปไหนไปกันตลอด
อาปู อุปการะที่พัก อาหารในหลายๆมื้อ และทุกๆเรื่อง
อาแก่ ที่ให้ยืมกล้องถ่ายรูป,กระเป๋าเดินทาง ฯลฯ
อาเหมี่ยว ที่เป็นธุระติดต่อคุณต้นให้ครับ
คุณต้น ผู้แนะนำเที่ยวบินที่ยอดเยี่ยมให้ผม
คนไทยหลายคน ที่แสดงความเป็น Land of smile เจอพวกคุณทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจเหมือนอยู่บ้าน
คนไทยและคนบางสัญชาติบางคน ที่บอกให้ผมรู้ว่ายังมีควายอยู่หลายตัวบนโลกนี้
คนญี่ปุ่นทุกๆคน คุณทำให้ผมรู้สึกว่าพวกคุณเป็นมิตรกับคนบ้านนอกๆอย่างผมมาก แม้จะฟังที่ผมพูดไม่เข้าใจ แต่ก็มีความพยายามจะช่วยเหลือพวกเราครับ...
ฝรั่งที่ร้านIkebe Gakki Shibuya ขอบคุณมากที่ชมสำเนียงภาษาอังกฤษกะเหรี่ยงๆของผม เกิดมาไม่เคยมีใครชมมาก่อน(มีแต่คนพูดว่าฟังไม่รู้เรื่อง 555)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น