Brian Wampler เป็นมือกีตาร์หนุ่มที่ชอบคิดค้นทดลองอะไรไปเรื่อยจนวันนึงได้คิดค้นเอฟเฟคที่มีเสียงเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ให้น้ำหนักและน้ำเสียงตอบสนองการเล่นได้เป็นอย่างดี และทำออกมาจำหน่ายในเวลาต่อมา จนปี 2004 Wampler ก็เริ่มมีชื่อเสียงเข้ามาและได้รับการรีวิวจากนิตรสารและเวปไซด์ด้านดนตรีต่างๆ และล่าสุดมีมือกีตาร์ชื่อดังหลายๆคนเลือกใช้สินค้าดังกล่าว และนี่คือ Pinnacle Limited II ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งในอเมริกาและเมืองไทย
เดือนกุมภาผมเริ่มได้ยินชื่อนี้จากหลายๆกระแสในเวป และเริ่มอยากจะหามาลอง มารู้ว่าที่ร้าน sweetsound เป็นดีลเลอร์ก็ดีใจว่าราคาน่าจะไม่แรงมาก แต่เมื่อโทรไปถามพี่พล ปรากฎว่าของหมดด้วยกระแสและราคาที่ใช้ได้ ก็เอาไงดีวะ??? ผมนั่งคิดๆๆๆอยู่ 1 อาทิตย์...เราจะรอแบบนี้ทำไม แม้เสียงจะไม่เคยลอง แต่จากกระแสน่าจะบอกอะไรบางอย่างได้ ดังนั้นผมตึงไม่รอช้าโทรหาพี่พล เพื่อสั่งมา 1 หน่วยกลางอากาศ นั่นคือ Pinnacle ซึ่งเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด
เวลาผ่านไปรอแล้วรอเล่า จนวันศุกร์ที่ 25 มีนา พี่พลก็โทรมาบอกตอนบ่ายๆว่าของมาแล้ว 3 ตัว ก็ตกลงจะไปรับเย็นนี้เลย ก็โชคดีน้องที่ทำงานคือ แต๋มและนาท ไปส่งระหว่างทางแถวเกษตรนวมินทร์ ก็ขอบคุณมากจ้า จากนั้นนั่งแท็กซี่ต่อหาร้านอยู่พักนึงก็เจอ มาถึงทุ่มนึง...ร้านน่ารักดีครับ(ไม่ได้ถ่ายรูปมาขออภัยด้วย) พี่พลอัธยาศัยดีเหมือนเดิม อีกคนเป็นลูกค้าคือ พี่วิ๋ม เล่นบลูส์แจ่มแจ๋วสะเด็ดมากๆ นับถือๆ วันนั้นผมไม่ได้ลองเผอิญนิ้วเดี้ยงก็เลยนั่งคุยๆกัน เผลอแป๊บเดียวเกือบๆ 4 ทุ่ม เลยต้องขอตัวกลับก่อน
กลับบ้านมานั่งถ่ายรูปอย่างเดียว พึ่งมีโอกาสเล่นก็วันอาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง
มาดูที่กล่องกันครับ...
พี่พลแถมที่เปิดขวด ของ Cusack เป็นเอฟเฟคยี่ห้อนึง
Pinnacle รุ่นที่hotที่สุดในตลาดตอนนี้
เปิดมาเป็นโบว์ชัวร์แนะนำรุ่นต่างๆ
ตัวเอฟเฟคอยู่นี่จ๊ะ
ที่ฮาคือ คู่มือแนบมาด้วยผิดรุ่น 555
ชะแว๊ปปปป
รุ่นนี้ทาง Brain บอกว่าเป็น Van Halen in a Box คือทำเลียนแบบเสียงกีตาร์ของ Eddie Van Halen มือกีตาร์ในตำนาน
ส่วนตัวผมได้ลองแล้ว ชอบมากๆคือ เนื้อเสียงกว้างมาก เสียงดิบแรงแต่สุภาพ ปรับได้เยอะทีเดียว
มี toggle สำหรับเลือ mode คือ vintage ให้เสียงdisโบราณๆหน่อย ประมาณ Marshall JTM คือ เสียงตั้งแต่ร็อคโบราณตั้งแต่ Deep Purple ยัน Slash มือกีตาร์วง Gun n'roses ซึ่งมาถึงตรงนี้ผมว่ามันคล้ายๆกับ Mighty Red ของ Mad Professor
ส่วนอีก mode คือ Modern ให้เสียงแตกคมๆ สมัยใหม่หน่อย ประมาณ Marshall JCM800 ยัน Mesa Boogieที่ไม่โหดมาก เสียงคมกริบและเนื้อเสียงดีจริงๆ มาถึงตรงนี้ทำให้นึกถึง Riot ของ Suhr
มีปุ่มบูสเสียง แต่ปรับรายละเอียดไม่ได้มาก(ต้องแกะฝาหลังอีกที)
สรุป...เนื้อเสียงดีทุกย่านเสียงอาจแยกประเด็นได้ดังนี้
1.Mode Vintage - A/B กับMighty Red คุณภาพเสียงดีกว่าและกว้างกว่าMighty Red แต่ Mighty Red ได้เปรียบที่เนื้อเสียงที่หนาเป็นมวลกว่า
2.Mode Modern -A/B กับRiot คุณภาพเสียงดีกว่าและกว้างกว่าRiot แต่ Riot ได้เปรียบที่เนื้อเสียงที่หนาเป็นมวลกว่าเช่นกัน
3.ข้อ 1-2 สามารถแก้ได้โดยใช้บูสที่ให้มา ก็เป็นเอฟเฟคที่ควรค่าแก่การเก็บในหิ้งตัวนึงครับ :-)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น