19 มิถุนายน 2555
วันก่อนลากคีย์บอร์ดตัวเก่งลงมาจากหลังตู้โชว์ ที่ย้ายไปไว้บนนั้นเพราะหนีน้ำท่วมตั้งแต่ปีก่อน แต่กว่าจะเอาลงแทบรากเลือด หนักโคตรๆ
ย้อนไปสมัยเด็กๆตอน 5-6 ขวบ อาแก่ไปเที่ยวสิงคโปร์กลับมาแกก็ซื้อของเล่นตัวนึงมาให้ คือ Casiotone จะว่าไปมันเป็นจุดกำเนิดของพัฒนาการทางดนตรีของผมเลยล่ะ ได้เจ้าCasiotoneมาก็หัดดีดเป็นเพลงตามที่ได้ยินมา แกรๆก็มั่วๆซั่วๆแล้วก็อาศัยดูตัวเลข1-2-3-4ที่มันขึ้นหน้าจอ จนเริ่มมาเล่นดนตรีเป็นวง ก็อาศัยพื้นฐานจากตรงนี้ล่ะ
จากนั้นพอผมเรียน ม.3 ก็ขอให้พ่อซื้อ คีย์บอร์ดให้ตัวนึง อ้อนพ่ออยู่เกือบๆครึ่งปีว่าต้องใช้ซ้อมแกะเพลงที่บ้านเพื่อเล่นงานโรงเรียน เพราะCasiotoneคีย์ไม่พอ พ่อก็ใจอ่อนผ่อนของคุรุสภาให้ เป็น Yamaha รุ่น PSR8 เป็นแบบใส่ถ่านก้อนใหญ่ 6 ก้อน มีจังหวะกลอง,กดส่ง (น้ำตาแทบไหลตอนพ่อซื้อให้ T^T) เวลาพ่อผมกิืนเหล้าที่บ้านพอแกเมาได้ที่ก็จะให้ผมเล่นเพลงพวกหยาด นภาลัย สุเทพ วงศ์กำแหง แล้วแกก็จะร้องตาม ส่วนเจ้าCasiotoneตัวเก่าย่าผมก็ขอ.....ให้น้องสาวรับช่วงต่อ
เวลาผ่านไปเข้าสู่ม.ปลาย ผมต้องไปซ้อมดนตรีที่บ้านเพื่อน ซึ่งเค้าใช้ซินธิไซเซอร์อยู่ 2 ตัวคือ Kawai K1 และ Roland D50
Kawai น่าจะเป็นยี่ห้อที่น่าจะเป็นมิตรต่อคนที่เล่นดนตรีไม่เป็นหรือเพิ่งหัดใหม่ๆ เพราะใช้งานง่าย ปุ่มน้อย และเนื้อเสียงแข็งโป๊ก(555) ซึ่งผมก็ชอบนะ เพราะเวลาเล่นมีแต่คนชมว่า Soundผมหนาเป็นลูกดี อิอิ
ส่วน Roland รู้สึกไม่ชอบใจเลย ด้วยเนื้อเสียงที่ไม่ถูกใจ หน้าตาเห่ย ใช้งานยากและสลับซับซ้อน ไม่ว่าจะออกรุ่นไหนมาเลยรู้สึกไม่อยากคบหาด้วยเท่าไหร่
ในยุคนั้นจะมีอีกยี่ห้อที่ถือว่า มาแรง และคนนิยมใช้มาก นั่นคือ Korg
ณ ห้องซ้อมดนตรีนึงที่ดังมาก และเด็กมัธยมย่านฝั่งธนฯนิยมใ้ช้บริการคือ ห้องซ้อมดนตรีตาตั้ม อุปกรณ์ที่นี่ถือเป็นจุดขายคือ คีย์บอร์ดซึ่งมีรุ่นใหม่ๆให้ได้เล่นในยุคนั้นและSoundที่พี่ตั้มSetupไว้ถือว่า "ได้มาตรฐานมากๆ"
Korg M1ถือว่าเป็นรุ่นนึงที่ผมโคตรชอบจากการที่มาเล่นที่นี่ รวมถึง Kawai K1 ซึ่งในยุคนั้นถือว่าเป็นคีย์บอร์ดในฝันของผมเลยล่ะ Soundกว้่างขวาง เหมาะกับเพลงทั่วๆไปในยุคนั้น เรีัยกว่ามี 2 ตัวนี้หากินได้ทั่วราชอาณาจักร
ต่อมา Korg ออกรุ่น O1/W ถือว่ารุ่นTopในยุคนั้นเลยล่ะ ด้วยการพัฒนาคุณภาพเสียงขึ้นไปอีก ไอ้ผมได้เห็นผ่านทางทีวีก็อยากได้ แต่ตอนนั้นเราก็แค่เด็กมัธยม คงไม่มีกำลังขนาดนั้น
ปี 2538 เข้ามหาลัยปี 1 ช่วงนั้นเริ่มซ้อมหนักขึ้น มีงานเล่นเยอะขึ้น และเริ่มมีงานประกวดดนตรี ซึ่งจำเป็นต้องหาคีย์บอร์ดใหม่ที่มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นไปอีก ส่วนตัวผมก็มอง Korgไว้ก่อนเลย ไปด้องมองๆที่ร้านเบ๊เงี๊ยบเส็งหลายรอบ โดยพี่ศักดิ์และพี่คมแกก็แนะนำที่ดีมากๆ และแนะนำ Korg X3ซึ่งมีราคาย่อมเยากว่า O1/Wครึ่งนึง แต่ประสิทธิภาพการทำงานไม่ต่างกันเลย
ไปลองอยุ่หลายรอบจนเป็นที่พอใจก็ตกลงปลงใจซื้อเจ้าตัวนี้ เงินส่วนนึงแม่ก็ช่วยออก(อีกแล้ว) จะมีใครรักเราเท่าพ่อแม่ไม่มีอีก T^T
X3ตัวนี้ก็ตะลุย 101 เจ็ดย่านน้ำ ผ่านมาเป็นสิบๆเวที ผ่านห้องอัดเสียงก็หลายห้อง ทำJingle , ละครวิทยุ , Spotวิทยุส่งอาจารย์ให้เพื่อนๆผมก็หลายคน เคยเล่นจนJoyตกหล่มก็มี(โยกแรงไปหน่อย) เล่นมาหมดทุกแนวทั้ง Pop Rock Progressive Jazz รวมถึงเพลงลูกทุ่ง และเป็นสื่อที่ทำให้ผมรู้จักเพื่อนดีๆ สังคมดนตรีหลายคนๆ
หลังจากปี 42 ผมเริ่มหัดเล่นกีตาร์ เจ้าX3นี้ก็เหมือนจะได้เล่นน้่อยลงๆ จนช่วง 4-5 ปีมานี่แทบจะนอนแน่นิ่งในกล่องตลอด จนเมื่อกลางปีที่แล้ว ลูกสาวก็อยากจะเอาตัวนี้มาซ้อมมือ เลยจัดการทดสอบหน่อยก็พบว่า ระบบอะไรชำรุดตามสภาพ ดังนั้นผมเลยส่งให้ร้านเบ๊เงี๊ยบเส็งบูรณะยกใหญ่....
วันนี้พร้อมแล้วครับ เสียดายที่Soundเดิมๆที่เคยเซ็ทอัพไว้หายหมด รวมถึงฝีมือของผมที่ไม่ได้ฝึกซ้อมเลยหดหายไปตามกาลเวลา 555 ^^"
 |
Stickerร้านแปะไว้ หมดประกัน อิอิ
|
 |
กล่องนี้เก่าตามสภาพ ไม่เชื่อดูฝุ่นที่กล่องได้จับขาวโพลน ขนาดเอาผ้าเช็ดยังไม่ออก อ้อ....กล่องของเค้าเป็นไม้ครับ หนักโคตรๆ |
 |
ล้อเลื่อนข้างนี้พังไปแล้วเรียบร้อย เวลาเข็นทีต้องถูลู่ถูกังกันเลย
|
 |
ยางที่หูจับร่อนออกหมดเหลือแต่แผ่นเหล็กชิ้นเดียว เวลายกต้องหาผ้าขี้ริ้วหุ้มมือ ไม่งั้นมือเน่า....
|
 |
เอาสติ๊กเกอร์สีดำปิดทับไว้ เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าใช้ยี่ห้ออะไร อิอิ
|
 |
เตรียมเปิดกล่อง.........พร้อมกันหรือยังครับ อิอิอิ |
 |
มีสลัก 4 ตัวครับ คิดว่าถ้ามีเวลาว่าจะหาบ้านใหม่ให้คีย์บอร์ดหน่อย |
 |
ชะแว๊ป.....หายไปไหน?! ขอเล่นมุขคลาสสิคหน่อย อิอิ |
 |
เปิดมาเจอตัวนี้เลย :D |
 |
มาดูด้านซ้ายบนก่อนครับ...มีVolume แล้วก็ปุ่มปรับต่างๆใช้ควบคุมเรื่อง Sequencer การปรับต่างค่าต่างๆ
|
 |
Volume ชัดๆ |
 |
ยี่ห้อ รุ่น และคุณสมบัติครับ |
 |
ด้านขวา ปุ่ม 0-9 เลือกเสียงต่างๆ ซึ่งต้องเลือกเป็นเลข 2 หลัก เช่น 01 23 98 |
 |
รุ่นนี้มี 61 คีย์เป็นรุ่นเริ่มต้นครับ รุ่นใหม่ที่ออกหลังตัวนี้จะเป็น X5 ซึ่งจะลดคุณสมบัติอะไรหลายๆอย่าง ถ้าตัว 81 คีย์จะเป็น X2(ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) |
 |
Serial Number |
 |
Joy เคยพังไปรอบ ได้รุ่นพี่ที่นับถือซ่อมให้ครับ |
 |
อีกมุม... |
 |
มีช่องใส่การ์ดเสียง เป็น optionที่ต้องซื้อเพิ่มครับ(พอดีไม่ได้ซื้อ แฮะๆๆๆ) |
 |
สังเกตด้านซ้าย มีคนมานั่งรอจะเล่นละ อิอิ |
 |
ต่อสายJack พร้อมลุย !!! |
 |
ช่อง input มี L คือ ออกซ้าย และ R ออกขวา ใช้กรณีที่เราต่อเข้า Mixer ซึ่งระบบเสียงจะเป็น Stereo ซ้าย-ขวา ถ้าออกหน้าตู้ปกติก็ใช้ L เป็น Mono ผมเล่นอยู่บ้านใช้ตู้กีตาร์เล่นก็ใช้ช่องนี้ช่องเดียวครับ |
 |
สายแจ็คเส้นขวาผมต่อเข้าช่ิอง Damper คือใช้เหยียบ Pedal เวลาเล่นเปียโนครับ |
 |
ตัวนี้ของเล่นใหม่ คือ Metronome กะว่าจะมาใช้ฝึกใหม่ทั้งกีตาร์-คีย์บอร์ด(ผมกับลูกสาว) |
 |
เมื่อปี 90 ทางYamaha ได้มีแนวคิดเพิ่มโหมด General Midi (GM) เพื่อเป็นมาตรฐานให้ผู้ผลิตคีย์บอร์ดนำไปใช้ ซึ่งก่้อนหน้านี้ยี่ห้ออื่นๆเช่น Roland Yamaha ต่างก็ผลิตเสียงที่ตัวเองคิดค้นออกมา ทำให้ผู้เล่นเกิดความลำบากในการค้นหาและจดจำ ระบบGMจึงออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เล่นไม่ว่าคุณจะซื้อคีย์บอร์ดยี่ห้อไหนก็มีจะ โหมดนี้ให้ใช้เหมือนกันหมด |
 |
อันนี้เป็น Setupจากโรงงานครับ คงต้องหาเวลาว่างๆปรับแต่งเสียงกันใหม่อีก |
 |
โหมดเสียงหลักๆจะแบ่งเป็นกลุ่มๆ(Bank) คือ A กับ B อย่างรุ่นใหม่ๆอย่าง Kronos จะแบ่งออกเป็น 7-8 กลุ่มเลยทีเดียว |
 |
อันนี้เป็นโหมด Combi ก็เหมือนจะผสมเสียงต่างๆมากกว่า 1 เสียง เนื้อเสียงใช้ได้เลยล่ะ |
 |
ตัว Pedalที่ใช้ของ Boss FS-5U บางทีก็เอามาต่อกับ RC2 เวลาเล่นกีตาร์ครับ อิอิ ก็ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ :D |