วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555

CIOKS DC8


ปี 2555 นี้เหมือนเรื่องอุปกรณ์ดนตรีจะเงียบๆไปหน่อย ด้วยรู้สึกว่าไม่มีอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีอะไรน่าสนใจซักอย่าง เลยเน้นไปเรื่องกิน-เรื่องเที่ยวซะมาก  จนเมื่อกลางๆปีที่ผ่านมามีอุปกรณ์ตัวนึงที่เหมือนกระแสออกมาดีใช่เล่น ทำให้ผมต้องศึกษาข้อมูลอยู่พักนึงทีเดียว นั่นคือ POWER SUPPLY หรือ ตัวจ่ายไฟ นั่นเอง

เดิมทียุคแรกสุด ผมใช้ไอ้เข้น้อย GATOR ตัวในรูปวันที่ซื้อจำได้เลยว่า วันนั้นเป็นวันที่ตัดสินใจจะเล่นก้อน เลยกำเงินไปซื้อ T-REX  MUDHUNEY , T-REX REPLICA(ตัวนี้ไม่ได้ซื้อ) และเจ้านี้

ใช้มาซักระยะไฟดูดบ่อยมากและจี่พอสมควร อีกทั้งกำลังการจ่ายไำฟก็น้อยมาก เวลาพ่วงกันหลายๆก้อนไฟไม่พอนี่ดับไปเลย เห็นท่าชีวิตจะไม่ปลอดภัยเลยขายไปดีกว่า -_-"

ต่อมาบ้านเรามีT-REX FUEL TANKมาขาย ต้องยอมรับว่า T-REXผลิต MUDHUNEYออกมาได้ดีมากๆทำให้ผมค่อนข้างเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าของเค้าพอสมควรจึงไม่ลังเลที่จะซื้อเจ้านี่มา

ข้อดีของเจ้านี่คือ จ่ายไฟ 12 โวลต์ได้ ซึ่งในท้องตลาดตอนนั้นมีแค่ 2 ยี่ห้อคือ T-REX และ VOODOOLAB ในส่วนราคาของ VOODOOLABค่อนข้างโหดไปหน่อย(เยอะเลย) ดูจะเป็นการลงทุนที่ไม่เหมาะเท่าไหร่สำหรับผม

ถามว่าทำไมต้อง 12 โวลต์?! เอฟเฟคที่ใช้กำลังไฟ 12 โวลต์จะเป็น Delay ซึ่งหลายๆยี่ห้อจริงๆก็ใช้ 9 โวลต์ได้ แต่จะทำงานได้ดีกว่าที่ 12 โวลต์ คือ เสียงเต็มกว่า อิ่มกว่า HEADROOMเยอะหนากว่า ซึ่งตอนนั้นผมใช้ TC ELECTRONIC NOVA DELAY อยู่ซึ่งใช้ไฟ 12 โวลต์ และกินไฟประมาณ 300 MA ก็พอดีๆเลย แต่ถ้าวันไหนพ่วงเอฟเฟคหลายๆตัวก็มีเป๋ๆเหมือนกัน

ถามว่าตัวนี้ดีที่สุดหรือยัง? ณ เวลานั้นก็ถือว่าดีแล้วครับตามงบ.........ใจคืออยากหาสาย POWERCOREมาอัพเกรดด้วยซ้ำเพื่อคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น

แต่....................??????????????????
อย่างที่บอกตอนต้น ผมเห็นเพื่อนๆหลายคนเปลี่ยน POWER SUPPLYกันแทบทุกคนและสุดท้ายมาลงเอยที่เจ้านี่ จึงมีคำถามว่าเจ้านี่มีดีอะไร?!........เรามาดูประวัติกันก่อนครับ :D

CIOKS ก่อตั้งขึ้นในปี 1991 โดยได้ออกจำหน่ายสินค้าเป็นครั้งแรกเป็นตัวจ่ายไฟขนาดเล็กในเดือนสิงหาคม 1992  CIOKSได้ผลิตตัวจ่ายไฟมีประสิทธิภาพมากที่สุดและหลากหลายเพื่อรองรับตลาด


CIOKS เป็นหนึ่งในผู้ผลิตแต่เพียงผู้เดียวที่ผลิตตัวจ่ายไฟโดยเฉพาะสำหรับEFFECT GUITAR บนโลกนี้ บรรดาผู้ผลิตเอฟเฟคต่างๆได้เป็นพันธมิตรที่ดีกับ CIOKS มาตั้งแต่ปี 1991 และมีการแลกเปลี่ยนไอเดีย , ให้คำปรึกษา และความรู้กัน โดยส่วนใหญ่บริษัทผู้ผลิตเอฟเฟคจะผลิตตัวจ่ายไฟและให้ความสำคัญเป็นสินค้ารองจากเอฟเฟคกีตาร์

ขณะที่ CIOKS ออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตรงกับเอฟเฟคกีตาร์ตามความแตกต่างของแต่ละยี่ห้อทั้งหมด เขารู้ว่าผู้เล่นกีตาร์และเบสชอบที่สับเปลี่ยนการตั้งใจของอุปกรณ์ และผลของต้องการดังกล่าวนำมาสู่การปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของCIOKS   ดังนั้นCIOKSจึงใส่ใจในการทำให้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและใช้งานง่ายที่สุดเท่าที่ทำได้
DC8 เป็นตัวจ่ายไฟระดับมืออาชีพโดยมีช่องจ่ายไฟหลายเอาท์พุทสำหรับเอฟเฟคกีตาร์ มี 8 ช่องควบคุมและกรองไฟกระแสตรง  กำหนดค่าใน 6 ส่วนแบบ ISOLATEแยกช่องรวมกัน 1.000mA ซึ่งทำให้การทำงานสมบูรณ์แบบสำหรับอุปกรณ์เซ็ทอัพขนาดเล็กหรือขนาดกลาง

เนื่องด้วยผมไม่ค่อยมีความรู้ด้านเทคนิคไฟฟ้ามากนัก ขอผ่านนะครับ (-_-)"
ตัวนี้ผมฝากน้องนัท SUKKAWADEE สั่งมา เพราะที่ตัวแทนของหมด ไอ้เราก็ขี้เกียจรอคิวครับ ได้มาก็ไม่ผิดหวังจริงๆ หน้าตาและpackagingดูหล่อมากๆ ขอบคุณน้องนัทมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ในกล่องมีการ์ดสินค้ารุ่นต่างๆมาให้ดูครับ หน้าตาหล่อๆทั้งนั้น จริงๆน่าจะทำแค๊ตตาล็อคให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีกว่า อิอิอิ
มีฟองน้ำรองอีกชั้นครับ เท่าที่เช็คในเวปไซด์ของ PEDALTRAIN ตัว CIOKSรองรับ PEDALBOARD ของ PEDALTRAINด้วยนะครับ ฉะนั้นใครซื้อไปก็สบายมุดไปอยู่ใต้บอร์ดได้เลย
สารภาพตามตรงว่าเพิ่งได้ลองเล่นไปครั้งเดียวตั้งแต่ซื้อมาตอนธันวา 55 ครับ (-_-)" เพราะงานยุ่งมากๆ ข้อดีที่รู้สึกได้คือ

1.มีช่องจ่ายไฟ 8 ช่องช่องละ 9 โวลต์ ซึ่งมีอยู่ 2 ช่องสามารถปรับเป็น 12 โวลต์ได้(มีสวิทช์ปรับด้านล่าง)
2.จ่ายไฟนิ่งมากๆ สิ่งที่รู้สึกไำด้คือ เสียงแตกสะอาดขึ้น หนาขึ้น ส่วนDELAYเสียงอิ่ม นวลขึ้นกว่าเดิมเยอะ(เลยล่ะ)
3.มีระบบนึงที่ยอดมากคือ เลียนแบบการจ่ายไฟของถ่าน หมายความว่าสามารถปรับการจ่ายไฟเป็นแบบถ่าน คือ ถ่านอ่อนก็จะให้เสียงที่มีเสน่ห์อีกแบบนึง(โดยมากจะเป็นพวกเสียง FUZZ)
4.มีข้อต่อล็อคตัวสายไฟทำให้สายไฟไม่หลุดง่ายๆ
5.ระบบการจ่ายไฟแบบ ISOLATEที่แยกแต่ละช่องออกจากกันทำให้จ่ายไฟนิ่งและเงียบขึ้นกว่าเดิม

ข้อเสียที่เห็นข้อเดียวคือ ตัวข้อต่อที่ล็อคสายไฟนี่ล่ะครับ เพราะมันล็อคแบบล็อคตายเลยถอดเข้าถอดออกลำบากมากต้องเสียบคาไว้อย่างเดียว และทำให้เราไม่สามารถUPGRADE สาย POWERCOREดีๆไำด้ :D

วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555

SETUP KEYBOARD ณ บัดนาว !!!

จากกระทู้ก่อนๆที่ผมพูดถึงคีย์บอร์ดตัวเดิมที่เอามาบูรณะใหม่ คิดว่าจะกลับมาซ้ิอมและเล่นคีย์บอร์ดอีกครั้ง จะกลับมาเล่นเพื่อตัวเองและลูกสาว เพราะตอนนี้ลูกสาวเรียนเปียโนLevelสูงขึ้นเรื่อยๆ ต้องมีอุปกรณ์ไว้ซ้อมมือด้วย ส่วนผมอยากฝึกวินัยให้ตัวเอง เมื่อก่อนคีย์บอร์ดนอนอยู่ในกล่อง จะเล่นทีก็เลยขี้เกียจเอาออกมา คิดว่าถ้าเอาออกมาตั้งพร้อมเล่นไำด้ทันทีน่าจะดีกว่า :D
ย้อนกลับสมัยที่ยังเล่นวง ตอนนั้นไปซ้อมที่ห้องซ้อมตลอด เลยไม่มีแอมป์ที่บ้าน เวลาแกะเพลงส่วนใหญ่เลยไปแกะที่ห้องซ้อมครับ ถ้าอะไรที่ซับซ้อนมากๆก็จะเสียบหูฟังเข้าที่คีย์บอร์ดเลย พอปี 40 ที่ผมเริ่มหันมาเล่นกีตาร์เลยแทบไม่ได้หยิบจับและเล่นคีย์บอร์ดอีกเลย

ช่วงปี 45 ช่วงที่เรียนต่อก็ว่างๆครับ เริ่มเบื่อๆกีตาร์ก็หยิบคีย์บอร์ดมาซ้อมมือบ้าง แต่เราไม่มีวงเล่นแล้ว(ไม่อยากเล่นวง) เลยต้องหาแอมป์คีย์บอร์ดไว้ซ้อม ช่วงแรกๆมีรุ่นพี่ที่เล่นคีย์บอร์ดแกก็แนะนำให้เอาคีย์บอร์ดต่อออกสเตริโอที่บ้านแทน โชคดีที่บ้านผมใช้ AIWA ตัวในรูปซึ่งเสียงออกมาดีทีเดียว ภายหลังตัววิทยุเสียบ่อยครั้งจนรู้สึกรับภาระค่าซ่อมไม่ไหวเลยต้องยกให้คนอื่นไป

ต่อมาซื้อสเตริโอตัวใหม่มาคือ SONY แต่เหมือนคุณภาพเสียงดันสู้ AIWAตัวเดิมไม่ได้ เลยต้องหาแอมป์ใช้งานจริงๆซักที ไอ้ครั้นจะใช้แอมป์คีัย์บอร์ดเค้าก็ไม่ทำตัวเล็กๆครับ ต้อง 40 W ขึ้นไป จะซื้อ Mixer ต่อออก PA ก็ดูจะยุ่งยากไปอีก 
เดินไปหลังกระทรวงสุดท้ายไปตายรังที่ตัวนี้ เพราะราคามันถูกแต่คุณภาพเสียงก็ตามราคาจริงๆ ใช้งานที่บ้านได้ไม่ถึงปีต้องปลดระวางเพราะลำโพงแตก 555

หลังจากนั้นก็เหมือนจะหยุดเล่นคีย์บอร์ดไปเลย เพราะไม่มีแอมป์ให้ซ้อมครับ
พฤศจิกายน 2555 เริ่มมีความรู้สึกอยากกลับมาเล่ยคีย์บอร์ดอีกรอบ ก็มองๆหาว่าจะใช้ลำโพงมอนิเตอร์ต่อกับคีย์บอร์ดนี่ล่ะ ในตลาดบ้านเราก็มีหลายเจ้า หลายราคาตามงบ ก็ตั้งเป้าไว้ว่าคงไม่เกินเท่านั้นเท่านี้ นั่งเก็บข้อมูลจากเน็ท  1 อาทิตย์ก็ได้ร้านที่ต้องไปและลำโพงที่เล็งๆไว้แล้ว
ตัวที่เป็นลำโพงอเนกประสงค์คือ เป็นลำโพงมอนิเตอร์ เป็น StudioDock คือ ลำโพงที่เชื่อมต่อ IPOD IPHONE และเป็น Soundcardในตัวด้วย ถือว่าคุ้มค่ามากๆครับ
ต้องขอบคุณ MUSIC CONCEPT ที่เปิดโอกาสได้ลองได้เต็มที่ครับ วันที่ไปลองผมก็ลองกับคีย์บอร์ดที่ร้าน เล่นแล้วก็สนุกดี เสียงตอบสนองดีมากๆ ย่านเสียงออกมาครบเลย มีมิติ
มาดูที่กล่องนี้ดีกว่าครับ ซ้อนมาหลายๆชั้นเหลือเกิน ตอนแบกกลับมาบ้านนี่แทบอ๊วก ยิ่งตอนลง TAXIมานี่ลมแทบจับ (-__-)"
เปิดกล่องมามีกล่องอีกชั้นซ่อนอยู่ ลึกลับซับซ้อนมากๆ
เปิดออกมาอีกที มีกล่องโฟมรองอยู่ครับ
มาดูของด้านในกัน................
ขอโฟกัสไปที่ตัวมอนิเตอร์นะครับ เพราะของที่แถมมาไม่มีอะไรน่าสนใจ(คู่มือ สาย USB) ที่ร้านเค้ามี 2 รุ่นคือ ดอก 4 นิ้ว กับ 5 นิ้ว ซึ่งเค้าแนะนำให้ผมเอา 5 นิ้วดีกว่าเพราะเสียงมีมิติกว่า ย่านเสียงกว้างและลึกกว่า
ที่ลำโพงซ้าย(ขวามือผม)จะมีปุ่มต่างๆคือ
1.บนสุด เป็นไฟ LED แสดงสถานะว่าทำงานไฟก็จะสว่างขึ้น
2.VOLUME ก็ปุ่มเปิดปิดเสียงครับ
3.AUX ตามคู่มือเป็นช่องสำหรับต่อออกอุปกรณ์ภายนอก ได้แก่ คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่น MP3 หรือ คีย์บอร์ด ซึ่งช่วงแรกๆผมใช้ช่องนี้ต่อออกคีย์บอร์ด
4.ช่องต่อหูฟัง
ด้านบนเป็น DOCKไว้ต่อเครื่องเล่น IPOD , IPHONE เป็นที่ชาร์ทไปในตัวครับ เล่นๆไปไม่ต้องกลัวแบตหมด :D
ด้านหลังช่องเยอะมากครับ แบ่งการทำงานดังนี้
* บนซ้าย เป็นช่องต่อออก MIXERครับ ปัจจุบันผมใช้ช่องนี้ต่อออกคีย์บอร์ด ต้องเป็นหัวแจ็คแบบ RCA
* บนขวา ช่องต่อ USB สำหรับต่อเข้าคอมครับ
* ช่องต่อสายลำโพงไปยังลำโพงอีกตัว
* ปุ่ม on/off
* ช่องต่อสายAC
ลำโพงด้านขวา(ซ้ายมือผม) มีลำโพง 5 นิ้ว 1 ดอกกับลำโพงทวิตเตอร์อีกตัว
ด้านหลังเป็นช่องต่อสายลำโพงครับ

พูดถึงลำโพงมอนิเตอร์ลืมอธิบายนิด............ลำโพงมอนิเตอร์มี 2 ชนิดนะครับคือ

1.แบบ ACTIVE คือตัวที่ผมใช้งานอยู่ นั่นคือมี POWERในตัวไม่ต้องหา POWER หรือ PREAMPมาต่อ ข้อดีคือ ประหยัดกว่าแบบ PASSIVE ขนย้ายสะดวกกว่า ข้อเสียคือ เสียงไม่เป็นธรรมชาติ ไม่สามารถอัพเกรด เช่น สายลำโพง สายสัญญาณ หรือซื้อลำโพงเซอราวน์ได้

2.แบบ PASSIVE คือ ลำโพงเปลือยๆครับ ซึ่งเราต้องหา POWER หรือ MIXER เพื่อมาเป็นตัวขับลำโพงดังกล่าว ข้อดีคือ เสียงธรรมชาติกว่าไม่หลอกหู สามารถอัพเกรดอุปกรณ์อื่นๆเช่น สายลำโพงได้ ข้อเสีย คือ แพง-แพงมากๆ
มาประกอบร่างกัน เนื่องจากโต๊ะคอมผมค่อนข้างเล็กครับ ไม่สามารถวางคีย์บอร์ดบนโต๊ะแบบ STUDIOได้(ก็ตัวมันใหญ่นี่หว่า 555) เลยต้องฝากเจ้ามอนิเตอร์ไว้ที่โต๊ะแทนครับ
มาภาพรวมๆครับ(บ้านรก+โทรมหน่อย แฮะๆๆๆ) ด้านขวาเป็นมุมคีย์บอร์ดตัวเก่ง เซ็ทอัพง่ายๆครับไม่ซับซ้อนมาก :D
และ..........เมื่อเร็วๆนี้ฝากน้องนัท SUKKAWADEEสั่งเจ้านี่มาครับ ถามว่ามันคืออะไร???

บ้านผมฝุ่นเยอะมากๆทั้งที่บ้านไม่ได้ติดถนนเลย เดาว่าสาเหตุน่าจะมาจากบ้านผมหน้าต่างเยอะ ฝุ่นที่ลอยมาตามอากาศจึงเข้ามาทางนั้น ข้าวของในบ้านเลยต้องทำความสะอาดบ่อยๆ รวมถึงคีย์บอร์ดด้วย เลยต้องหาผ้าคลุมหน่อย

เท่าที่ผมสำรวจมาไม่มีใครสั่งผ้าคลุมคีย์บอร์ดมาขายครับ เมืองนอกก็มีทำอยู่ 2 เจ้า ผมเลยสั่งของ GATOR ซึ่งน่าจะคุ้นเคยหน่อยและราคาพอจะรับได้ ขอบคุณน้องนัทมา ณ ที่นี้ด้วย
ตัวผ้าแรกๆเข้าใจว่าเป็นผ้าลินินหรือผ้าฝ้ายหนาๆครับ แต่แกะออกมาเหมือนผ้าฝ้ายบางๆ เบาดี
มีขนาดให้เลือกตามไซด์คีย์บอร์ดครับ ของผม 61 คีย์ 
คลุมเสร็จแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ :D
แถมสายแจ็คนิดครับ..........เดิมผมอยากได้สายแจ็คดีๆ 2 เส้นไว้ต่อจากคีย์บอร์ด(เป็นสเตอริโอ) เข้าลำโพง แต่ช่อง INของลำโพงมันต้องเป็นแจ็ค RCA 

ถ้าตามคู่มือมันต้องเข้าด้านหน้าก็มีรูเดียว ดังนั้นสายแจ็คต้องเป็นแบบสาย Y ซึ่งพวกเครื่องเสียงราคาเป็นหมื่นๆ !!! เลยไปนั่งปรึกษาที่ร้าน MUSIC CONCEPT ซึ่งพี่ดั๊กแกทำสาย RCA ทิ้งไว้อยู่แล้วครับ ก็แค่ต่อหัว ADAPTERเข้าไปก็ใช้ได้

แต่ไปๆมาๆผมก็เอาสายนี้ต่อเข้าทางด้านหลังอยู่ดีล่ะ เพราะเสียงออกมาเต็มกว่า 555
สุดท้ายละครับ BOSS FS5U ใช้ต่้อเป็น DAMPERไปก่อน ว่างๆจะหา DANPER เปียโนมาใช้งานซะที :D

วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ขับรถไปเตะบอล.....เอกมัยเก็ทเวย์

ก่อนอื่นขอดับร้อนด้วยชาเขียวกับเมล็ดทานตะวันหน่อย อิอิอิ
15 ธันวาคม 2555
วันนี้โปรแกรมแน่นเอี๊ยด ต้องเอากีตาร์ FENDER ตัวเก่าและบรรดาเอฟเฟคต่างๆไปฝากน้องนัทขาย แล้วไปเตะบอลต่อที่ลาดกระบัง ไอ้ครั้นจะนั่งรถเมล์ไปคงไม่ไหว จะนั่งTAXIค่ารถคงกินค่ากีตาร์หมด เลยต้องไปขอยืมรถจากอาแก่มาใช้งานก่อนซึ่งอาแก่ก็ไม่ได้หวงอะไร ขอบคุณมากค้าบบบ

บ้านน้องนัทก็ไม่เคยไป เท่าที่สอบถามคือ อยู่หลังราม ไปทางเส้นพระราม 9 ไอเผมก็นั่งแต่รถเมล์เลยงงๆหน่อย นัทบอกว่าลงทางด่วนศรีนครินทร์ ผ่าน THE NINE ก็จะเจอ

7.00 น.ผมนั่ง TAXIจากบ้านแบกของทั้งหมดมาที่บ้านอาแก่ที่พุทธมณฑลสาย 2  เช็คสภาพรถไม่นานก็ออกเดินทาง แวะส่งอาปุ๊กกลางทางก็จัดการขึ้นทางด่วนที่ยมราช ขับไปเรื่อยๆไม่ได้รีบอะไร แต่อาจจะขับเพลินไปหน่อยเพราะเช้ามากรถไม่ติด และ.......ขับเลย 555 ต้องโทรถามเอก สรุปว่าต้องลงทางด่วนที่บางนาแล้วไปม้วนหาทางเข้าจากแถวศรีนครินทร์

ด้วยความที่ไม่ได้ไปแถวนั้นนานมากๆก็ขับตามทางมาเรื่อยๆครับ เวลาก็จะ 8.30 รถเริ่มเยอะแต่ในที่สุดก็ถึงบ้านน้องนัท

เสร็จธุระแรก เอกขับรถมารอหน้าปากซอย ผมก็ขับรถตามเอกไปสนามบอลต่อ เล่นไปได้ถึงเที่ยงก็เลิกครับ
จากนั้นแวะไปกินข้าวร้านอาหารแถวนั้น ได้ขนมเกาหลีจากน้องนัทมารองท้อง ขอบคุนอีกเช่นกัน :D
ขากลับถึงเวลาเอาตัวรอดครับ เพื่อนๆมีรถกันต่างคนต่างกลับ ส่วนผมต้องพารถกลับไปด้วย ทางก็ไม่รู้อาศัยวัดดวงอย่างเดียว เจอป้ายบอกทางไปกรุงเทพก็ขับตามไป ขับไปๆเริ่มงงๆทาง สุดท้ายไปที่เราสะดวกดีกว่าคือเข้าบางนา แล้วตีรถขึ้นทางด่วน

ขับไปรับอาปุ๊กที่โรงเรียนอีก กว่าจะถึงบ้านอาแก่ล่อไปเกือบๆ 16.30 น. เหนื่อยโคตรๆ
วันรุ่งขึ้น(16 ธันวาคม 2555)
หลังจากวันศุกร์ไปเดินโต๋เต๋ที่เอกมัย เก็ทเวย์เลยอยากพาที่บ้านมากินอาหารแปลกๆที่นี่บ้าง กล่อมปูเป้อยู่พักใหญ่ถึงได้มา นั่งรถไฟฟ้ามา 3 คนสะดวกสบายดี(แต่แพงฉิบ T T) ร้านน่ากินๆหลายร้าน อย่างร้านราเม็ง ร้านเนื้อย่าง ร้านอิซากายะ สุดท้ายมาตายรังที่ชาบูชิ T____________T เซ็งเป็ด(จะมาทำไมตั้งไกล)
ขากลับแวะดูไฟที่ CENTRALWORLD เป็นอันจบพิธี :D

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

วันพ่อแต่พาแม่ไปกินข้าว :D

วันที่ 5 ธค.55
วันนี้หยุดงานนะฮาฟ เป้กับเจี๊ยบไปบ้านยายตอนกลางวัน ผมขี้เกียจอยู่บ้านเลยออกไปนั่งเล่นที่บ้านเราคือ CTW
เดินดูนั่นดูนี่ ไปมาๆเที่ยงเริ่มหิว แรกๆอยากกินอะไรหนักๆหน่อย อย่าง Momo หรือ ราเม็งชามยักษ์ แต่ดูราคาแล้วสู้ไม่ไหว(คือสู้น่ะไหว แต่เกรงว่าสิ้นเดือนจะไม่มีอะไรกิน T T) เลยเล็งข้าวหน้าเนื้อแทน

อาทิตย์ก่อนที่ไปกินมีโปรแถมไข่ออนเซ็นถ้าสั่งข้าวหน้าเนื้อชาวใหญ่รสไหนก็ได้ มาวันนี้ดันแถมแต่รสธรรมดา แล้วรสธรรมดาโคตรจืดเลย เลยต้องตัดใจสั่งรสเผ็ดมากิน ไม่แถมไข่ก็จะกิิน(วะ) เหมือนรสชาดไม่เข้มข้นเท่าที่สาขาปิ่นเกล้า - -"
ตกเย็นเลยกลับบ้านมาพาแม่ไปกินข้าววันพ่อหน่อย พ่อไปสวรรค์แล้ว
จริงๆจะไปที่ซิสเลอร์ แต่แม่ไม่อยากไปกินบอกไม่อร่อย เลยมากินข้าวร้านหน้าปากซอย สั่งกับข้าวมาเท่าที่เห็น รสชาดร้านนี้ไม่เป็นสองรองใคร ราคายุติธรรม อิ่มหมีพีมันกันถ้วนหน้า :D

วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Ootoya@Central Pinklao November 2012

11 พฤศจิกายน 2555
วันอาทิตย์พาเด็กไปเรียนพิเศษ เกิดวาระแห่งชาติเรื่องการกิน สุดท้ายไปจบที่ร้านโอโตยะ ซึ่งเราไม่ได้กินกันพักนึงละ
วันนี้ผมสั่งเมนูที่ช่วงหลังกินบ่อยหน่อย เพราะไม่หนักท้องมาก คือ ซุปเต้าหู้กับไข่ไก่ กินเบาๆท้องดี
ของเจี๊ยบสั่งปลาแซลมอนย่างถ่าน เครื่องเคียงออกมาเยอะมาก ในถ้วยขาวๆคือ ไชเท้าบดกินเปล่าๆราดข้าวเค้าว่ามีคุณค่าทางอาหารเยอะครับ
อันนี้เป็นเครื่องเคียงตัวใหม่ เมื่อก่อนจะเป็นผัดไก่กับถั่วลันเตา อันนี้เป็นไก่ทอดกับไชเท้าครับ อร่อยดี หน้าตาสวยงามมากๆ
กะหล่ำปลีลวกครับ อันนี้ตัดเลี่ยนได้ดีเลยล่ะ
สาหร่ายทะเลมีทั้งลวกซึ่งแผ่้นใหญ่มาก  กับสาหร่ายต้มซีอิ้วครับ
ปลาแซลม่อนย่าง
ตามด้วยไอติมในน้ำเต้าหู้
กลับบ้านมานั่งเล่นไอ้นี่ต่อ อิอิอิ