วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557

8-9 มีนาคม 2557 กับคาโกโนยะ

7 มีนาคม 57
วันศุกร์ต้นเดือน เช้าวันนี้ต้องเดินทางไปหลายที่ โดยหลักๆคือแถวซอยอารีย์ เราก็เลยแวะไปดูตึกเก่าที่เคยทำงานอยู่ คือ กสิกรไทย สำนักพหลโยธิน หลายๆอย่างดูเ้ปลี่ยนไป ไฮโซขึ้น มีพวกคอนโด สิ่งปลูกสร้างใหม่ๆขึ้นมาเยอะเลย
8 มีนาคม 57
วันเสาร์อาทิตย์นี้ตั้งใจจะไปกินร้านอาหารเปิดใหม่ ชื่อว่าคาโกโนยะ อยู่ที่ THE WALK ราชพฤกษ์ ซึ่งไม่ไกลจากบ้านปู่แก่เท่าไหร่ ผมก็วางแผนไว้ว่าจะไปกินกันวันเสาร์ เพราะว่างทั้งวัน เวลาที่เหลือจะได้ไปทำอย่างอื่น ส่วนวันอาทิตย์เรียนเปียโนเสร็จค่อยว่ากัน แต่เจ้าหมูดำเกิดอยากจะอยู่บ้านซะงั้น คุยกันอยู่ครึ่งวันเช้าก็ไม่จบ ป้าก็จะออกไปข้างนอก สุดท้ายเจ้าหมูดำเลือกจะไปอยู่บ้านพี่มุก ผมไปกินข้าวข้างนอก ป้าไปซื้อของ
นั่งรถเมล์ไป CTW แทนการไปร้านคาโกโนยะเพราะไปลำบาก ไปเจอ AD ตัวนี้แรกๆนึกว่าเมนูใหม่ร้านโอโตยะ ดูอีกทีอ้าววว  ของฟูจินี่หว่า???
เดินวนๆอยู่รอบครึ่งตัดสินใจกิน MOMO อีกวัน 15 วันมานี่กินไป 2 รอบละ คนไม่เยอะมาก ลุกนั่งสบายครับ เนื้อหมูและเนื้อวัววันนี้สดมากๆ ผักไม่ต้องห่วงสดอยู่แล้ว
วันนี้ลองสั่งข้าวมากินด้วยกะให้จุกตายกันไปข้างนึง รวมๆแล้วได้ความรู้สึกที่ดีกลับมาจากเมื่อก่อนเยอะ ติดนิดเดียวตอนทานเสร็จ พนักงานดันมาเช็คบิลเฉย ทั้งๆที่ยังไม่ได้เรียก เหมือนจะไล่อ้อมๆยังไงไม่รู้ หึหึหึ
ไปเข้าห้องน้ำที่อิเซตัน เจอไอ้นี่แปลกดีครับ เป็นชักโครกแบบญี่ปุ่น ทำเอาต่อมตื่นเต้นทำงานทันที 
มองไปใต้ชักโคกเห็นช่องเหลี่ยมตรงกลางเข้าใจว่าน่าจะมีท่อโผล่มาแบบของญี่ปุ่นแน่ๆ อุอุอุ
ตรงปุ่มกดจะมีให้เลือกชำระแบบผู้ชายหรือผู้หญิง....
หลังจากทดสอบแล้วเหมือนกับระบบอะนาล็อคทั่วๆไปครับ คือ เวลาเราเลือกท่อจะยื่นออกมา แต่เราต้องกดปุ่มค้างไว้ คล้ายๆกดสายชำระก้นนั่นล่ะ(พูดง่ายๆคือ กดฝักบัวนั่นเอง)
9 มีนาคม 57
วันนี้ย่าปูโทรมาดักคอว่าจะเข้ามามั้ย? เจ้าหมูดำยอมจำนนบอกว่าเรียนเสร็จจะเข้าไป หลังจากเสร็จธุระเราแวะเข้าไปที่ย้านปู่แก่ตั้งใจว่าวันนี้จะกินร้านคาโกโนยะให้ได้ แม้ว่าเราจะซัดก๋วยเตี๋ยวเรือมาตอนเที่ยงก็ไม่หวั่น

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า ร้านอยู่ที่ THE WALK ราชพฤกษ์ หาไม่ยากครับติดกับ KFC บรรยากาศร้านค่อนข้างเงียบจนถึงวังเวง ไฟสลัวๆเหมาะแก่การนอนมาก 

บ้านเรายืนดูเมนูนาน-นานมากๆ ตัดสินใจกันอยู่นานจะกินกันแบบไหน สุดท้ายก็ลองดูละกัน....
ตอนนั่งในร้าน โต๊ะเราเป็นโต๊ะเดียวจริงๆที่มากินร้านนี้ มีอีกโต๊ะในมุมมืดๆเป็นพวกพนักงานเสิรฟ์และเชฟนอนหลับกันเป็นเรื่องเป็นราว เห็นอนาคตรำไรจริงๆ -_-"
พออาหารมาช้ามาก สองคนนี้เลยแย่งมือถือกันเล่นเลย อิอิ
สั่งชาเขียวร้อนและเย็นไปอย่างละแก้ว ราคาแก้วละ 30 บาท ก็ปกตินะครับแต่ชอบโอโตยะสุดเพราะมีกลิ่นหอมข้าวคั่วด้วย
ผมกับป้าสั่งเซ็ทอาหารกลางวันเหมือนกัน มีให้สั่งได้ถึง 4 โมงเย็น ป้าเลยเลือกเซ็ทหมูทอดมา หมูทอดได้กรอบดีครับ แต่มีแอบไหม้นิดๆ ดูลักษณะเหมือนกับว่าทอดไว้นานแล้ว เอามาอุ่นใหม่อีกทีมากกว่า
ของผมเป็นเซ็ทเท็มปุระรวม มาว่ากันทีละอย่างก่อน ...

เท็มปุระ ตัวกุ้งสดและตัวใหญ่ครับ ผ่านเลย แต่ตัวแป้งแปลกๆเหมือนใส่ผงชูรสลงไปด้วย คล้ายๆพวกผงชุบแป้งทอดของคนอร์ รวมๆโอเคอยู่ ส่วนผักเท็มปุระ มีหน่อไม้ฝรั่งด้วย ส่วนแครอท เฉยๆครับ

ปลาแซลมอนชิ้นใหญ่และสด เกรดค่อนข้างดี น่าประหลาดใจทีเดียว ดีกว่าฟูจิ และคุณภาพพอๆกับเซนครับ

ข้าวญี่ปุ่น ปกติตามมาตรฐานครับ แต่ผมกินมาหลายๆร้านว่าข้าวโอโตยะนี่หอมและเม็ดใหญ่สุดละ
มาที่เจ้าหมูดำสั่งแบบอลังการงานสร้างมาก ตอนดูในเมนูไม่เท่าไหร่ ตอนยอกออกมานี่ แม่จ้าววววววววววว ใหญ่โตมโหฬารมาก กลัวตอนจ่ายเงินจริงๆ T T

มีซูชิส่วนนึง ได้ชิมเป็นบางคำ(เจ้าหมูดำกินแต่ปลา แต่ตัวข้าวนี่ผมกินหมด) ปลาสด ชิ้นใหญ่ครับ

ด้านบนมีไข่ตุ๋นกับข้าวเท็มปุระ

ไข่ตุ๋นเจ้าหมูดำฟาดเรียบ...

ข้าวเท็มปุระมีอะไรแดงๆทอด ผมต้องมาจัดการ มันคือ กุ้งแห้งทอดกับสาหร่าย แปลกดี !!!
อุด้งเป็นไข่หวานกับแป้งเท็มปุระครับ แรกๆเสียวว่าเส้นอุด้งจะเป็นเส้นสำเร็จรูป เพราะจะเละๆไม่อร่อยแบบยาโยอิ แต่ปรากฎเป็นเส้นที่ร้านทำ ถือว่าผ่านเกณฑ์ครับ ติที่น้ำซุปเค็มไปนิด
Set อาหารกลางวันจะมีไอติมให้ด้วย รวมๆก็โอเคครับ เทียบกับฟูจิถือว่าอาหารดีกว่ามากๆ มื้อนี้ถ้าราคากับคุณภาพถือว่ารับได้นะครับ แล้วบริการดีมากๆด้วย :)