วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Gustoso@Centralworld June 2012

24 มิถุนายน 2555
พาเด็กไปเรียนเ้ปียโนเสร็จก็อยากไปเดินเล่นCTWขึ้นมาตงิดๆ เหมือนไม่ได้ไปมานานเป็นเดือนๆเลย นั่งรถเมล์มาลงหน้าห้างเค้ามีกิจกรรมพอดี เป็นพระพุทธรูปหยก 

เดินดุ่มๆหาร้านอาหารกันว่าจะไปไหนดี แรกๆว่าจะไปโอโตยะ แต่ผมเบื่อๆเพราะกินบ่อยละ และราคาอาหารขึ้นมาพอสมควร เลยขอมาที่ร้าน Gustoso  ชั้น 7 แทน ไปถึงไม่ต้องรอคิว ก็จัดแจงไปที่มุมอาหารญี่ปุ่นก่อน วันนี้เหมือนซูชิจะออกมาน้อยไปนิด
ปลาแซลมอนวันนี้ค่อนข้างผิดหวัง หั่นมาชิ้นใหญ่และหนาไป กินลำบากมาก
มองหาไก่ทอดไม่เจอ มีแต่คาราเกะแทนเอามาลอง 2 ชิ้น ทอดนานเหนียวไปหน่อย แฮมรมควัน-ซาลามี่ใช้ได้ ส่วนสลัดผลไม้ก็ตามมาตรฐานทั่วไป
เซ็ทซีฟู๊ด อันนี้ไม่ได้กิน เจอเด้กจิ๊กไปกินหมด
พิซซ่าเตาถ่าน อันนี้เด็ดมากๆออกมากี่ชิ้นก็ไม่เหลือ เค้าทำออกมาบางๆกินง่ายดี
ชีสอย่างตู้มมมม
หมูอบซอสอะไรซักอย่าง เหนียวไปอ่ะไม่ผ่าน , ขนมจีบกุ้งนี่ก็ธรรมดา ,ซุชิก็ตามมาตรฐานทั่วๆไป แต่แอบเคืองนิดๆวันนี้ข้าวแน่นมากๆกินไม่กี่ชิ้นจุกเลย -*-

สเต๊กหมู อันนี้ประทับใจมาก วันนี้ย่างมาพอดีๆเนื้อไม่หนา กัดพอคำ ซอสก็แล้วแต่เราจะเลือกมา


สลัดผัก เอาแซลมอนใส่ไปแก้เลี่ยน
สเต๊กแซลม่อน อันนี้ทอดนานไปแข็งมาก - -"
ปิดท้ายด้วยเครปส้มและไอติมเจลาโต้ตามสูตร ^____^

ร้านบะหมี่หมูย่างน้ำแดง@ท่าเตียน

23 มิย.55
เมื่อคืนนอนไม่หลับเพราะจำได้ว่าส่งงานผิด เลยต้องตื่นแต่เช้าออกจากบ้านมานั่งแก้งานที่ทำงาน มาถึง 10 โมงเช้า 11.30 ก็เสร็จนั่งรถเมล์มาตายเอาดาบหน้าแถวสามเสน แล้วต่อรถเมล์มาลงแถวท่าเตียน ตอนเด็กๆผมจะชอบให้อาพามาเดินเล่นที่นี่ ถามมีอะไรจากวัดแจ้งก็มีพระปรางค์ ข้ามมาก็จะเป้นวัดพระแก้ว แล้วก็เดินดูปืนใหญ่ที่กระทรวงกลาโหม

ร้านบะหมี่ร้านนี้ก็เป็นเจ้าประวัติศาสตร์กับเค้า เห็นตั้งแต่เด็กๆจนมาทำงานที่กระทรวงพาณิชย์ ท่าเตียนก็แวะกินเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปกระทรวงก็ย้ายไปอยู่สนามบินน้ำแล้ว ร้านก็ยังคงอยู่ วันนี้ได้ฤกษ์ดีก็แวะหม่ำหน่อย
วันนี้มีหมูย่างขายเลยสั่งหมูย่างแทนหมูแดง น้ำแดงๆเค้าก็มีขวดให้เราราดเอง
รสชาดเข้มข้นเหมือนเดิม ^__^
กินเสร็จก็ข้ามเรือกลับบ้าน
สภาพเรือก็เดิมๆเหมือนเมื่อ 20-30 ปีก่อน ^^"

ถึงละ....
ยักษ์วัดแจ้ง
พระปรางค์วัดอรุณฯ
หมดละ สวัสดี ^^

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Marshall Minor FX สุดยอดหูฟังในราคาเบาๆ

19 มิถุนายน 2555
14 มิถุนายน ฟังเพลง-ดูวีดีโอผ่านiphoneไปเรื่อยเปื่อยโดยใช้สาย Ipod บ้านหม้อเส้นละ 150 บาทก็เหมือนจะพบปัญหาเสียงขาดๆหายๆทีละข้าง จนตอนเช้าวันที่ 15 เสียงหูฟังด้านขวาก็ดับไป พยายามจับๆดึงๆเพื่อให้เสียงกลับมาก็ไม่หาย ซ้ำหนักเสียงข้างซ้ายพลอยหายไปด้วย นับวันที่ซื้อมาจากบ้านหม้อก็ใกล้ 2 เดือนพอดี คิดว่าเย็นๆวันอาทิตย์คงได้เวลาไปเยือนบ้านหม้ออีกรอบ

ตกเย็นฝนตกพรำๆ ขึ้นรถเมล์ฝ่าสายฝนลองไปเดินที่แยกเสือป่า แหล่งขายอุปกรณ์มือถือราคาถูกดู ถามไถ่หลายๆร้านก็ราคามาตรฐาน 140 บาท ลองแค่รีโมทใช้ได้และมีเสียงออก กลับบ้านมาลองฟัง บรรจงเปิดเพลง 6:00 ของDream Theater เสียงกลองชุดอันหนักหน่วงกลายเป็นเสียงตะโพน ตุ๊กๆตั๊กๆ....เริ่มรู้สึกอะไรแปลกๆ?!   เอาใหม่ๆลองเปลี่ยนมาเป็นเพลงไทยอย่าง เพลงความคิดของแสตมป์ เอ๊ะ....ทำไมเสียงแสตมป์เอื้อยๆเหนื่อยๆเหมือนเสียงครูเอื้อ สุนทรสนานท์??? สงสัยหูฟัง 140 บาทผมออกฤทธิ์แล้ว สงสัยได้เสียเงินแน่ๆ

ลองเก็บข้อมูลตั้งแต่วันเสาร์ ก็สอบถามเพื่อนโป้งซึ่งก็แนะนำให้ลอง Marshall Minor FX 
เดิมMarshallเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตแอมปลีไฟล์สำหรับกีตาร์และเบสจากประเทศอังกฤษ โดยมีเอกลักษณ์เสียงที่โดดเด่นและเฉพาะตัวมาก ซึ่งคราวนี้มาบุกตลาด IT โดยการผลิตหูฟัง ทั้งรุ่นใหญ่อย่าง Major และรุ่นเล็กอย่าง Minor 
ก่อนไปซื้อผมไปสำรวจราคามาหลายร้านเหมือนกัน โดยเฉพาะร้านIStudio ซื้อราคาพุ่งไปถึง 3 พันกว่าบาท และของไม่มีด้วย จะมีก็แต่ร้านมั่นคงที่ราคาถูกที่สุด ในส่วนของร้านมั่นคงมีหลายสาขาครับ เช็คไปที่สาขาสยามปรากฎของไม่มี แต่ที่งามวงศ์วานยังมีอยู่ เลยต้องตระเวนไปที่นั่น สนใจก็ดูเบอร์ตามนี้เลย
มาถึงตัวหูฟัง ดูกล่องซะก่อน สวยงามมากออกแบบได้ดีจริงๆ เอ้อ....ตอนไปถึงร้านเค้าก็มีตัวอื่นมาให้ลองหลายตัวเหมือนกันครับ เช่น Senheiser ซื้อมีหลายราคาหลายๆรุ่น แต่ลองๆแล้วไม่ชอบ ขนาดเปิดเพลงpopธรรมดาเสียงreverbมันก้องและเป็นเม็ดๆระยิบระยับไป ถ้าเปิดเพลงร็อคหรือฮิปฮอปหน่อยคงฟังแล้วเหนื่อย
ด้านนี้เค้าบอกชัดเจนว่าใช้กับ IPod - IPhone - IPad ครับ
พูดถึงรุ่น FX จะต่างกับรุ่นที่ไม่มีคำว่า FX คือ จะมีปุ่มบังคับตรงรีโมทด้วย ทำให้เราสามารถรับสายโทรศัพท์ รวมถึงเร่ง-เบาเสียงและเปลี่ยนtrackได้อย่างรวดเร็ว
รุ่นนี้มีสองสีครับ คือ ขาว กับ ดำ แต่แปลกเหมือนกันที่สีดำกลับขายดีกว่า ส่วนผมไม่ซีเรียสอยู่แล้ว อะไรมีก็เอามาเถอะ(ตอนนี้ต้องการด่วน !!!)
ด้านล่างกล่อง หน้าตาดูดีมากๆครับ :D
พูดถึงมั่นคงสาขานี้นิดนึง ใจผมคิดว่าเค้าน่าจะหาสถานที่ดีกว่านี้หน่อยนะ เพราะห้างพันธ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ดูไม่ค่อยน่าเดินเลย แม้จะเ้ป็นห้างITห้างนึงก็เถอะ อย่าง The Mall งามวงศ์วานนี่คนก็เยอะห้างดูทันสมัยกว่า น่าจะเวิร์คกว่าอ่ะ
ด้านนี้บอกการทำงานของตัวรีโมท ก็เหมือนสายIPodครับ แล้วก็มีเหมือนตัว Ear Plagอีกตัวที่แถมมาด้วย ซึ่งช่วยในเรื่องของการช่วยหนีบหูฟังให้กระชับมากยิ่งขึ้น
เอาล่ะ........พล่ามมานาน ได้เวลาเปิดกล่องซักที ด้านหน้าเค้ามีเทปใสปิดแค่นั้นครับ เราก็จัดการแกะเทปใสนั้นออกมา เท่านี้ก็เปิดได้ละ
เปิดมาก็จะเจอหูฟังเลย ตัวหูฟังใหญ่เหมือนกันแฮะ อุปกรณ์เป็นสีทองทั้งหมด ดูหรูหรามากๆ หัวJackเป็นขนาด  3.5 ซึ่งใช้กันอยู่ทั่วไปในวงการเครื่องเสียง
ดูกันชัดๆ บอกชัดเจนด้านไหนซ้าย ด้านไหนขวา ตัวสายเป็นเหมือนเชือกถักครับ น่าจะทนกว่าที่เป็นสายพลาสติกแบบที่ผมใช้อยู่แน่ๆ
พลิกกล่องมาจะเจอนี่เลยครับ ซองพลาสสิคนี่ครับ ก็จะมีคู่มือและเหมือนตัวEar Plag(หรือเปล่า เรียกไม่ถูกเหมือนกัน - -")
นี่ครับคู่มือสีแดงแปร๊ด สะใจมาก กับตัวที่ว่า(ตกลงเค้าเรียกอะไรหว่า???) 
อ้อ....ขอพูดถึงหูฟังของAppleซะหน่อย หมายถึงตัวที่แถมมากับ IPod - IPhoneหน่อย ถ้าเราไปซื้อตามศูนย์ก็ราคา 1,090 บาท ซึ่งจริงๆผมชอบเสียงมันนะคือ เสียงจะFla tคือกลางๆทุกย่านเสียง ฟังได้ทุกแนวและสบายหูดี อาจจะไม่เทพแต่เหมาะสมกับราคาดี เสียอย่างเดียวที่ไม่ค่อยทนเท่าไหร่ ผมใช้มา 2 อันละ อยู่ได้ปีครึ่งก็หรูอ่ะ
ตัวรีโมทด้านหลัง ปั้มคำว่า Marshall ชัดเจน โลโก้ที่เราคุ้นเคยครับปกติจะเจอแต่สีดำ พอมาเจอสีขาวดูแปลกๆตาดี งานดูเรียบร้อยตามมาตรฐานครับ :D
รีโมทด้านหน้าครับ มี 3 ปุ่ม มีหน้าที่การทำงานดังนี้ครับ
1.ปุ่มเร่งเสียงดัง  (+)
2.ปุ่มลดเสียง      ( - )
3.ปุ่มเล่น-หยุด-เดินหน้า   ( • )


ก็ตามมาตรฐานการทำงานทั่วไป หรือใครใช้หูฟังของIPodอยู่ก็ทำหน้าที่เหมือนกันครับ  ไม่ต้องมาทำความเข้าใจอะไรใหม่ อิอิอิ
ตัวหนีบสาย เป็นโลโก้Marshall สีทอง จริงๆอยากให้เป็นสีอื่นมากกว่า ไม่แน่ใจว่าใช้ไปเรื่อยๆสีทองจะลอกหรือเปล่า? ความยาวของสายน่าจะประมาณ 1 เมตรครับถือว่ากำลังดีสำหรับการใช้กับโทรศัพท์และเครื่องเล่น MP3
ลำโพงหูฟังพ่นสีทอง ดูหรูหราอีกแบบ แต่ผมว่ามันลิเก๊ลิเกอ่ะ ถ้าสีดำน่าจะตัดกับสีทองได้ดีกว่านะ ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คู่มือและหูฟังครับ ใจผมอยากให้เค้าแถมซองผ้าสำหรับเก็บหูฟังด้วยนะ แต่ราคาแค่นี้จะเอาไรมาก แฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ทดสอบ : จากการใช้งานมาได้ 4 ชั่วโมง ทดลองด้วยเพลงต่างๆหลากหลายแนว พบว่าเสียงออกสุภาพ นุ่มนวล ย่านเสียงเบสทุ้มลึกและแหลมคมชัด  อิมแพ็คค่อนข้างดี เหมาะสำหรับฟังเพลงทั่วไป จัดได้ว่าจุดเด่นของตัวนี้คือ เสียงเบสที่มีเนื้อมีหนัง มีมวลสัมผัสได้ แต่ไม่ขนาดตึ๊บๆ อึ๊บๆแบบกระแทกขี้หูไหล  ย่านเสียงกลางถือว่าไม่โดนเด่นมากนัก แต่ก็ไม่ขี้เหร่ ส่วนย่านแหลมถือว่ายังโอเคอยู่ แต่ถ้าจะเอาไปฟังพวกอะคูสติคที่มีความคมชัด อาจไม่เหมาะเท่าไหร่ ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องใช้เวลาBurnอีกซัก 10-20 ชม.เป็นอย่างน้อย

ทั้งนี้ ผมว่าเจ้า Minor FX ตัวนี้ทำหน้าที่ของมันได้เหมาะสมกับราคาแล้ว อย่าเอาไปเทียบกับหูฟังราคาหลายพันหรือเรือนหมื่น เพราะสินค้าเหล่านี้ราคาก็บ่งบอกคุณภาพได้ระดับนึงแล้ว แต่ถ้าคุณมีงบไม่เกิน 2,000 บาทผมว่าเจ้านี้น่าจะตอบโจทก์ได้ดีเลยล่ะ :P

Korg X3

19 มิถุนายน 2555

วันก่อนลากคีย์บอร์ดตัวเก่งลงมาจากหลังตู้โชว์ ที่ย้ายไปไว้บนนั้นเพราะหนีน้ำท่วมตั้งแต่ปีก่อน แต่กว่าจะเอาลงแทบรากเลือด หนักโคตรๆ

ย้อนไปสมัยเด็กๆตอน 5-6 ขวบ อาแก่ไปเที่ยวสิงคโปร์กลับมาแกก็ซื้อของเล่นตัวนึงมาให้ คือ Casiotone จะว่าไปมันเป็นจุดกำเนิดของพัฒนาการทางดนตรีของผมเลยล่ะ ได้เจ้าCasiotoneมาก็หัดดีดเป็นเพลงตามที่ได้ยินมา แกรๆก็มั่วๆซั่วๆแล้วก็อาศัยดูตัวเลข1-2-3-4ที่มันขึ้นหน้าจอ จนเริ่มมาเล่นดนตรีเป็นวง ก็อาศัยพื้นฐานจากตรงนี้ล่ะ

จากนั้นพอผมเรียน ม.3 ก็ขอให้พ่อซื้อ คีย์บอร์ดให้ตัวนึง อ้อนพ่ออยู่เกือบๆครึ่งปีว่าต้องใช้ซ้อมแกะเพลงที่บ้านเพื่อเล่นงานโรงเรียน เพราะCasiotoneคีย์ไม่พอ พ่อก็ใจอ่อนผ่อนของคุรุสภาให้ เป็น Yamaha รุ่น PSR8 เป็นแบบใส่ถ่านก้อนใหญ่ 6 ก้อน มีจังหวะกลอง,กดส่ง (น้ำตาแทบไหลตอนพ่อซื้อให้ T^T) เวลาพ่อผมกิืนเหล้าที่บ้านพอแกเมาได้ที่ก็จะให้ผมเล่นเพลงพวกหยาด นภาลัย สุเทพ วงศ์กำแหง แล้วแกก็จะร้องตาม ส่วนเจ้าCasiotoneตัวเก่าย่าผมก็ขอ.....ให้น้องสาวรับช่วงต่อ

เวลาผ่านไปเข้าสู่ม.ปลาย ผมต้องไปซ้อมดนตรีที่บ้านเพื่อน ซึ่งเค้าใช้ซินธิไซเซอร์อยู่ 2 ตัวคือ Kawai K1 และ Roland D50

Kawai น่าจะเป็นยี่ห้อที่น่าจะเป็นมิตรต่อคนที่เล่นดนตรีไม่เป็นหรือเพิ่งหัดใหม่ๆ เพราะใช้งานง่าย ปุ่มน้อย และเนื้อเสียงแข็งโป๊ก(555) ซึ่งผมก็ชอบนะ เพราะเวลาเล่นมีแต่คนชมว่า Soundผมหนาเป็นลูกดี อิอิ

ส่วน Roland รู้สึกไม่ชอบใจเลย ด้วยเนื้อเสียงที่ไม่ถูกใจ หน้าตาเห่ย ใช้งานยากและสลับซับซ้อน ไม่ว่าจะออกรุ่นไหนมาเลยรู้สึกไม่อยากคบหาด้วยเท่าไหร่

ในยุคนั้นจะมีอีกยี่ห้อที่ถือว่า มาแรง และคนนิยมใช้มาก นั่นคือ Korg

ณ ห้องซ้อมดนตรีนึงที่ดังมาก และเด็กมัธยมย่านฝั่งธนฯนิยมใ้ช้บริการคือ ห้องซ้อมดนตรีตาตั้ม อุปกรณ์ที่นี่ถือเป็นจุดขายคือ คีย์บอร์ดซึ่งมีรุ่นใหม่ๆให้ได้เล่นในยุคนั้นและSoundที่พี่ตั้มSetupไว้ถือว่า "ได้มาตรฐานมากๆ"

Korg M1ถือว่าเป็นรุ่นนึงที่ผมโคตรชอบจากการที่มาเล่นที่นี่ รวมถึง Kawai K1 ซึ่งในยุคนั้นถือว่าเป็นคีย์บอร์ดในฝันของผมเลยล่ะ Soundกว้่างขวาง เหมาะกับเพลงทั่วๆไปในยุคนั้น เรีัยกว่ามี 2 ตัวนี้หากินได้ทั่วราชอาณาจักร

ต่อมา Korg ออกรุ่น O1/W ถือว่ารุ่นTopในยุคนั้นเลยล่ะ ด้วยการพัฒนาคุณภาพเสียงขึ้นไปอีก ไอ้ผมได้เห็นผ่านทางทีวีก็อยากได้ แต่ตอนนั้นเราก็แค่เด็กมัธยม คงไม่มีกำลังขนาดนั้น

ปี 2538 เข้ามหาลัยปี 1 ช่วงนั้นเริ่มซ้อมหนักขึ้น มีงานเล่นเยอะขึ้น และเริ่มมีงานประกวดดนตรี ซึ่งจำเป็นต้องหาคีย์บอร์ดใหม่ที่มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นไปอีก ส่วนตัวผมก็มอง Korgไว้ก่อนเลย ไปด้องมองๆที่ร้านเบ๊เงี๊ยบเส็งหลายรอบ โดยพี่ศักดิ์และพี่คมแกก็แนะนำที่ดีมากๆ และแนะนำ Korg X3ซึ่งมีราคาย่อมเยากว่า O1/Wครึ่งนึง แต่ประสิทธิภาพการทำงานไม่ต่างกันเลย

ไปลองอยุ่หลายรอบจนเป็นที่พอใจก็ตกลงปลงใจซื้อเจ้าตัวนี้ เงินส่วนนึงแม่ก็ช่วยออก(อีกแล้ว) จะมีใครรักเราเท่าพ่อแม่ไม่มีอีก T^T

X3ตัวนี้ก็ตะลุย 101 เจ็ดย่านน้ำ ผ่านมาเป็นสิบๆเวที ผ่านห้องอัดเสียงก็หลายห้อง ทำJingle , ละครวิทยุ , Spotวิทยุส่งอาจารย์ให้เพื่อนๆผมก็หลายคน เคยเล่นจนJoyตกหล่มก็มี(โยกแรงไปหน่อย) เล่นมาหมดทุกแนวทั้ง Pop Rock Progressive Jazz รวมถึงเพลงลูกทุ่ง และเป็นสื่อที่ทำให้ผมรู้จักเพื่อนดีๆ สังคมดนตรีหลายคนๆ

หลังจากปี 42 ผมเริ่มหัดเล่นกีตาร์ เจ้าX3นี้ก็เหมือนจะได้เล่นน้่อยลงๆ จนช่วง 4-5 ปีมานี่แทบจะนอนแน่นิ่งในกล่องตลอด จนเมื่อกลางปีที่แล้ว ลูกสาวก็อยากจะเอาตัวนี้มาซ้อมมือ เลยจัดการทดสอบหน่อยก็พบว่า ระบบอะไรชำรุดตามสภาพ ดังนั้นผมเลยส่งให้ร้านเบ๊เงี๊ยบเส็งบูรณะยกใหญ่....

วันนี้พร้อมแล้วครับ เสียดายที่Soundเดิมๆที่เคยเซ็ทอัพไว้หายหมด รวมถึงฝีมือของผมที่ไม่ได้ฝึกซ้อมเลยหดหายไปตามกาลเวลา 555 ^^"
Stickerร้านแปะไว้ หมดประกัน อิอิ
กล่องนี้เก่าตามสภาพ ไม่เชื่อดูฝุ่นที่กล่องได้จับขาวโพลน ขนาดเอาผ้าเช็ดยังไม่ออก อ้อ....กล่องของเค้าเป็นไม้ครับ หนักโคตรๆ
ล้อเลื่อนข้างนี้พังไปแล้วเรียบร้อย เวลาเข็นทีต้องถูลู่ถูกังกันเลย
ยางที่หูจับร่อนออกหมดเหลือแต่แผ่นเหล็กชิ้นเดียว เวลายกต้องหาผ้าขี้ริ้วหุ้มมือ ไม่งั้นมือเน่า....
เอาสติ๊กเกอร์สีดำปิดทับไว้ เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าใช้ยี่ห้ออะไร อิอิ
เตรียมเปิดกล่อง.........พร้อมกันหรือยังครับ อิอิอิ
มีสลัก 4 ตัวครับ คิดว่าถ้ามีเวลาว่าจะหาบ้านใหม่ให้คีย์บอร์ดหน่อย
ชะแว๊ป.....หายไปไหน?! ขอเล่นมุขคลาสสิคหน่อย อิอิ
เปิดมาเจอตัวนี้เลย :D
มาดูด้านซ้ายบนก่อนครับ...มีVolume แล้วก็ปุ่มปรับต่างๆใช้ควบคุมเรื่อง Sequencer  การปรับต่างค่าต่างๆ
Volume ชัดๆ
ยี่ห้อ รุ่น และคุณสมบัติครับ
ด้านขวา ปุ่ม 0-9 เลือกเสียงต่างๆ ซึ่งต้องเลือกเป็นเลข 2 หลัก เช่น 01 23 98
รุ่นนี้มี 61 คีย์เป็นรุ่นเริ่มต้นครับ รุ่นใหม่ที่ออกหลังตัวนี้จะเป็น X5 ซึ่งจะลดคุณสมบัติอะไรหลายๆอย่าง ถ้าตัว 81 คีย์จะเป็น X2(ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)
Serial Number
Joy เคยพังไปรอบ ได้รุ่นพี่ที่นับถือซ่อมให้ครับ
อีกมุม...
มีช่องใส่การ์ดเสียง เป็น optionที่ต้องซื้อเพิ่มครับ(พอดีไม่ได้ซื้อ แฮะๆๆๆ)
สังเกตด้านซ้าย มีคนมานั่งรอจะเล่นละ อิอิ
ต่อสายJack พร้อมลุย !!!
ช่อง input มี L คือ ออกซ้าย และ R ออกขวา ใช้กรณีที่เราต่อเข้า Mixer ซึ่งระบบเสียงจะเป็น Stereo ซ้าย-ขวา ถ้าออกหน้าตู้ปกติก็ใช้ L เป็น Mono ผมเล่นอยู่บ้านใช้ตู้กีตาร์เล่นก็ใช้ช่องนี้ช่องเดียวครับ
สายแจ็คเส้นขวาผมต่อเข้าช่ิอง Damper คือใช้เหยียบ Pedal เวลาเล่นเปียโนครับ
ตัวนี้ของเล่นใหม่ คือ Metronome กะว่าจะมาใช้ฝึกใหม่ทั้งกีตาร์-คีย์บอร์ด(ผมกับลูกสาว) 
เมื่อปี 90 ทางYamaha ได้มีแนวคิดเพิ่มโหมด General Midi (GM) เพื่อเป็นมาตรฐานให้ผู้ผลิตคีย์บอร์ดนำไปใช้ ซึ่งก่้อนหน้านี้ยี่ห้ออื่นๆเช่น Roland Yamaha ต่างก็ผลิตเสียงที่ตัวเองคิดค้นออกมา ทำให้ผู้เล่นเกิดความลำบากในการค้นหาและจดจำ ระบบGMจึงออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เล่นไม่ว่าคุณจะซื้อคีย์บอร์ดยี่ห้อไหนก็มีจะ โหมดนี้ให้ใช้เหมือนกันหมด
อันนี้เป็น Setupจากโรงงานครับ คงต้องหาเวลาว่างๆปรับแต่งเสียงกันใหม่อีก 
โหมดเสียงหลักๆจะแบ่งเป็นกลุ่มๆ(Bank) คือ A กับ B อย่างรุ่นใหม่ๆอย่าง Kronos จะแบ่งออกเป็น 7-8 กลุ่มเลยทีเดียว
อันนี้เป็นโหมด Combi ก็เหมือนจะผสมเสียงต่างๆมากกว่า 1 เสียง เนื้อเสียงใช้ได้เลยล่ะ
ตัว Pedalที่ใช้ของ Boss FS-5U บางทีก็เอามาต่อกับ RC2 เวลาเล่นกีตาร์ครับ อิอิ ก็ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ :D