วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

Yoshinoya@Central Pinklao

27 มกราคม 2556
เรียนเสร็จเหมือนเดิม....หาข้าวกิน
วันนี้ใจผมอยากกินเนื้อหมูดำมาก อยากตั้งแต่คราวก่อนละยังไม่ได้กินซะที แต่มาแถวบ้านใช่จะหากินง่ายๆ จนมาเจอร้านนี้ทำให้ผมนึกถึงข้าวหน้าเนื้่ออันแสนอร่อย ประกอบกับปูเป้อยากกินขนมร้านนี้พอดีเลยเข้าทางซะ

ผมสั่งข้าวหมูย่างแบบเผ็ด เพื่อจะได้กินไข่ออนเซ็นด้วย อิอิอิ
ผิดหวังนิดๆหมูแข็งไปหน่อย ถ้าเป็นเนื้อวัวคงอร่อยกว่าแน่ๆ - -"
ในเซ็ทก็จะมีข้าว ไข่ออนเซ็น ซุป สลัดผัก และไอติมชาเขียว
ของป้าสั่งข้าวไก่ย่าง
ซุปวากาเมะเค็มสะใจไตดีแท้
ไอติมกะให้เด็กกิน ดันไม่กินจะกินโมจิซะงั้น .........

วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556

ก๋วยเตี๋ยวเรือท่าสยาม

20 มกราคม 2555
พาปูเป้ไปเรียนกันสองคนพ่อลูก เพราะย่าอ้วนไม่สบาย ป้าเสียสละ(หรือเปล่า?) ขออยู่บ้านเฝ้าย่าอ้วนแทน เรียนเสร็จผมอยากซื้อหมูดำคุโรบุตะเลยแวะห้างกันหน่อย เดินไปเรื่อยๆท้องเริ่มร้องหาข้าวกินกัน หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือท่าสยามเจ้านี่ดันอยากกินแกงส้มเผ็ดๆมาเลยเอาซะหน่อย.....
สั่งแกงส้ม ไข่เจียว กับข้าวเปล่ามา แกงส้มไม่เผ็ดครับแต่เปรี้ยว (ตามสไตล์แกงส้มนั่นล่ะ) เจ้านี่เลยกินไปบ่นไป เด็กหนอเด็ก......คราวหลังจะสั่งอะไรดูดีๆก่อนเน้อ
ส่วนผมสั่งเกาเหลารวมมา กะจะกินเอ็นแก้วเค้า เพราะเคยกินแล้วอร่อยมากๆ ดันใส่้ให้มาชิ้นเดียว ผิดหวังอย่างแรง ส่วนรสชาดนี่ผ่านอยู่แล้ว :D

วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

ส่งท้ายปี 2555 ณ ร้านบ้านน้ำเคียงดิน

30 ธันวาคม 2555
วันหยุดประจำปี หยุดยาวแบบนี้คนอื่นเค้าไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน บ้านเราเบี้ยน้อยหอยน้อยเลยเฝ้่าบ้านแทน :(
วันนี้น่าจะเป็นวันนึงที่รวมญาติๆมาทานข้าวมื้อเย็นกัน เรามีนัดกันที่ร้านบ้านน้ำเคียงดิน พุทธมณฑลสาย 3 แต่เหมือนพวกผู้ใหญ่จะวางแผนกันซับซ้อนหน่อย เพราะวันนี้จะมีดนตรีสด ปู่แก่กับย่าปูอยากดู เลยต้องส่งทีมแรกมาจองโต๊ะตั้งแต่ 4 โมงเย็น(ร้านเปิด 5 โมงเย็น) มีผม เจี๊ยบ ปูเป้ และย่าปุ๊ก ส่วนปู่แก่และย่าปูต้องไปงานศพแถวบ้านก่อน
เข้ามาถึงขอโต๊ะที่ใกล้เวทีที่สุด แดดก็แรงได้ที่นั่งไปนั่งให้แดดเลียจนหน้าไหม้ นั่งไปๆเด็กเสริฟ์เริ่มมากดดัน เพราะเราจองไว้ 12 ที่ ร้านเค้าก็จะเอาโต๊ะไปให้คนที่พร้อมกว่า แต่เราก็นั่งทนๆๆๆๆๆๆ จนแพ้สายตาเด็กเสริฟ์ สุดท้ายขอสั่งอาหารมารองท้องไปพลางๆก่อน....

ออเดิรฟ์ร้อน เมนูเรียกน้ำย่อย มีของ 4 อย่าง
1.ปลาหมึกทอด อาหารทะเลที่นี่สดอยู่แล้วครับ เด้งติดฟันดี ส่วนแป้งกรอบไม่อมน้ำมัน
2.กะเพราะปลาผัดแห้ง อันนี้รู้สึกแปลกหน่อยๆ ตรงที่ผมเคยกินกะเพราะปลาผัดแบบกรอบๆเหมือนยำ 3 กรอบ แต่ร้านนี้เค้าผัดแบบแห้งๆนิ่มๆเลย ทีนี้พอทิ้งไว้นานๆเข้าเลยอมน้ำซอส เจ้ากะเพราะปลาเลยเละไปเลย....
3.ผัดไก่เม็ดมะม่วง กินกับข้าวอร่อยดีครับ เนื้อไก่ชิ้นใหญ่ดี แต่กินมากๆก็เลี่ยนเอาได้นะ
4.แมงกะพรุนผัดน้ำมันงา อันนี้ประทับใจบ้านเรามาก เด้งสู้ฟันเราดีจริงๆ ทิ้งไว้เย็นๆแล้วก็ยังอร่อยอยู่
จากเมนูออเดิรฟ์ร้อน เรานั่งละเมียดค่อยๆเล็มอาหารเพื่อรอเวลาสมาชิกที่เหลือ นั่งรอแล้วรอเล่าจน 6 โมงเย็นยังไม่มีใครมา เด็กเสริฟืก็เริ่มมองเราตาขวาง เราเลยต้องสั่งอาหารเพิ่มเพื่อไม่ให้น่าเกลียด เจ้าหมูดำจัดการสั่งซุปข้าวโพดซัดไป 3 ถ้วยได้ 
เมนูนี้ป้าสั่ง แต่เดิมเมนูขนมหรือของหวานร้านเค้ามีแค่้กล้วยหอมทอด แต่มาวันนี้เหมือนร้านเค้าไปจ้างพ่อครัวของหวานเพิ่ม(มั้ง) มีออกมาหลายตัวเลยล่ะ สั่งเจ้านี้มาหน้าตาดีทีเดียว รสชาดไม่ขี้เหร่เลย
และ SIGNATUREของร้าน กล้วยหอมทอด รสชาดดีเหมือนเดิม สั่งชุดเล็ก 5 ลูก แค่นี้ก็จุกแล้วครับ :D

 
กินอาหารจนอิ่มยังไม่มีใครมา ป้าเลยไปเก็บภาพรอก่อน ภาพถ่ายที่เบลอๆป้าถ่ายนะครับ 5555555555555
1 ทุ่มเศษๆเริ่มทยอยมากันครับ อาหารล็อตสองจึงเริ่มสั่งมา ส่วนผมไม่ไหวละ นั่งดูอย่างเดียวดีกว่า
ขาหมูทอด ไม่สั่งเหมือนไม่ได้มาที่นี่ครับ
POCKCHOP มากินที่ร้านนี้หลายครั้งไม่เคยสั่งเลย มารอบนี้ขอลองซะหน่อย ไม่ผิดหวังครับอร่อยมากๆ

ยำยอดหญ้าเมนูที่มาทีไรต้องสั่ง จบมื้อนี้แทบกลิ้งไปเลย อิ่มและอร่อยมากๆ :D

วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556

จาก Fenderญี่ปุ่นเก่าๆมาถึงFender Customshop Heavy Relic


ส่งท้ายปี 2555 ด้วยกีตาร์สุดโหด......

ย้อนไปสมัยที่เล่นกีตาร์ใหม่ๆ ปี 2542 ช่วงเรียนปี 4 ใกล้จบจากที่ไอ้เอกเำพื่อนในคณะผมเอากีตาร์ไฟฟ้าVensonมาขายให้ 1,500 ทั้งที่ผมเล่นกีตาร์ไม่เป็น เล่นมาหลายเดือนจนรู้สึกว่ากรูต้องหากีตาร์ที่มันดีกว่านี้หน่อย จึงกลายมาเป็น Fender Statocaster Floydrose Japan มือสองตัวในรูปผ่านการโมด์มาทุกรูปแบบ ทั้งทำสีใหม่ เปลี่ยนฟิงเกอร์บอร์ด ปิคอัพ 3 ตัว คันโยก ฯลฯ จนได้มาจับ American Standard มือสองตัวนึงก็รู้สึกว่าเราน่าจะเหมาะกับกีตาร์แบบนี้มากกว่า จึงเป็นที่มาของ Fender American Series ตัวขวามือในรูป มีบางช่วงที่ผมเป๋ๆไปบ้างแอบสอยกีตาร์ทรงอื่นมาเล่นอย่าง Godin LGX ตัวกลางแต่สุดท้ายก็อยู่ด้วยกันไม่นาน
ตัวนี้ซื้อมาปี 2004 ตั้งใจไว้ว่าเราจะคงเอกลักษณ์เดิมๆของกีตาร์ให้ได้มากที่สุดเพื่อความเป็น Fender ช่วง 3 ปีแรกแม้จะมีกระแสการเปลี่ยนคาปาซิเตอร์มั่ง เดินสายเงินมั่ง แต่ผมยังคงแน่วแน่อยู่ จนวันนึงได้อ่านคอมเม้นต์นึงในกีตาร์ไทยเรื่องPICKUP SUHR ก็มีความคิดเปลี่ยนไปคือ เนื้อเสียงเต็มขึ้น อิ่มขึ้น ก็เปลี่ยนแล้วพอใจมากๆครับ

ด้วยความซนของผม(อีกแล้ว) ไปนั่งลองกีตาร์ที่ร้านMUSIC CONCEPTมากๆเข้าก็เลยเริ่มหลอน พอหลอนหนักเข้าๆทีนี้ก็นั่งเฝ้าหน้าจอคอมทุกวันครับ ดูEBAYมั่ง เวปร้านกีตาร์เมืองนอกที่ดังๆมั่ง พยายามข่มใจตัวเองพักใหญ่ โดยรอบนี้ผมตั้งสเปคกีตาร์ไว้ดังนี้
* กีตาร์ทรง START
* การทำสีตั้งใจไว้ 2 แบบคือถ้าไม่เป็นเฟรมจัดๆก็เป็นแบบเน่าๆไปเลย
* บอดี้ขอน้ำหนักเบาไว้ก่อนเนื่องจากผมมีGIBSONตัวนึง หนักโคตรๆ
* ปิคอัพแบบ S-S-S
* คอดำเนื่องจากมีตัวเก่าเป็นคอขาว
* สีSUNBURSTหรือสีขาว ส่วนสีอื่นไม่ค่อยชอบครับ
* หนึ่งในบรรดากีตาร์ที่ผมลองที่MUSIC CONCEPT มีรุ่้นนึงที่โดนใจผมมากๆคือ RE57 HEAVY RELIC แต่ราคาไม่เป็นมิตรเอาซะเลย Y_Y
แรกสุดเลยผมได้ปรึกษาอาจารย์ปอกับน้องนัทอยู่หลายรอบเหมือนกัน ว่าจะต่อยมวยข้ามรุ่นไปเล่น MASTERBUILTคือกะว่าซื้อครั้งเดียวจบไปเลย แต่ด้วยความที่มันลงทุนค่อนข้างสูงเลยได้แต่แอบด้องๆมองๆอย่างเดียว จนมาสะดุดกับกีตาร์ตัวในรูปรวมถึง FENDER MASTERBUILT ERIC JOHNSON เข้าด้วยสเปคอะไรหลายๆอย่างคิดว่า....ตัวนี้ล่ะที่เราต้องการ
จนปลายปี 2555 มีพี่ที่นับถือคนนึงคือ พี่หมอเอ แกส่งซิกมาบอกว่าพี่จะขายกีตาร์ที่มีอยู่สนใจมั้ย? ผมไม่ปฏิเสธทันทีเพราะพี่เอเป็นคนรักกีตาร์คนนึงและกีตาร์ทุกตัวของแกถือเป็นตำนานจริงๆ ขอบคุณพี่เอที่ส่งนังขาวมาให้ผมดูแลครับ สัญญาว่าจะดูแลเป็นอย่างดีแน่นอน :D

พี่เอบอกว่า.....เจ้าขาวเป็นตัวที่แกรักมากตัวนึง ด้วยความพิเศษหลายๆอย่างของมัน เรามาดูสเปคกันก่อนครับ
* 2012 Fender Custom shop Re57 Heavy Relic White 
* Blond with Abby PUs

* Swamp Ash Body 
และด้วยความที่เป็นไม้Swamp Ash น้ำหนักของตัวนี้ คือ 6.10 lb. หรือ 3 Kg !!! เบามากกกก เสียง Resonance ดีมากๆ ซึ่งผมไม่เคยมีกีตาร์ที่เป็นไม้ Ashเลย ตรงใจกับที่ผมอยากได้พอดี
รุ่นนี้ปรับ Spec จากปี 2009-10 คือ Radius เป็น 9.5 
อีกสิ่งหนึ่งที่ถือว่าพี่หมอเอได้ใจผมไปเต็มๆคือ ตามใบ COA ของ FENDER เค้าบอกว่ากีตาร์ตัวนี้ผลิตในเดือนพฤศจิกายน 2012 ซึ่งพี่เอแกขายให้ผมในเดือนธันวาคม 2012 เท่ากับว่ากีตาร์ผลิตแค่เดือนเดียวเท่านั้น ใหม่มากๆ!!
โปรดสังเกตการRELIC , การCrackของเค้าครับ คอเค้าใช้วิธีการย้อมเป็นสีเหลืองทองๆแบบกีตาร์เก่าๆแล้วรอยที่แล็คเกอร์ลอกตามเฟรตถ้าเอานิ้ววางทาบจะเหมือนว่าเป็นรอยที่ผ่านการดันสายจากการเล่นมาเป็นเวลานานๆ ซึ่งรอยถลอกแบบนี้ตั้งใจและมีที่มาแน่นอนครับ :)
ดูที่หลังคอแล้วแทบร้องกรี๊ดครับ สังเกตุว่าคอนี่เค้าขัดแล็คเกอร์ออกมาแทบจะเหี้ยนเลย เป็นฟิลดิบๆ ซึ่งถ้าคนที่ชอบก็จะชอบไปเลย ถ้าเกลียดก็เกลียดไำป พอดีผมชอบกีตาร์ถลอกๆแบบ RORY เลยแฮปปี้มากๆ :D
การทำสีก็แบบไนโตรเซลูโลสแบบกีตาร์เก่าทุกประการ ส่วนกีตาร์รุ่นใหม่ๆจะทำสีแบบโพลียูริเทน
ถามว่าต่างกันยังไง? ไนโตรเซลูโลสเป็นการเคลือบสีแบบเก่าลักษณะเม็ดสีจะแตกกระจายไม่เกาะหนาแน่น ดูแลรักษายากไม่ทนต่อสารเคมีแต่เสียงที่ได้จะเปิดกว่าและให้เสียงออกแหลมกว่า

ส่วนโพลียูริเทนเม็ดสีเกาะแน่นแต่ด้วยความที่เม็ดสีหนาแน่น ย่าน low จึงทำได้ดีกว่า ดังนั้นไนโตรเซลูโลสจึงเหมาะกับกีต้าร์ที่ต้องการความวินเทจมากๆ หรือหากต้องการกีต้าร์ที่ลุดดูเก่าหรือรีลิค จะเหมาะที่สุด
รอยCRACKสวยๆครับ เยินสะใจดีแท้ จากที่ลองๆนั่งเล่นดูเสียงค่อนข้างคม พุ่งดี ออกแนวเก่าๆวินเท็จหน่อยๆครับ
ถามว่าเล่นได้ดีในสไตล์ไหน? กีตาร์แบบนี้ผมว่าลุยได้ 101 เจ็ดย่านน้ำครับ แต่ด้วยความที่ผมมีGIBSONด้วยตัวนึง ขอตอบแบบไม่โกหกว่า แนว HEAVYคงจะไม่เหมาะกับเจ้าขาวแน่นอน เพราะพอซัดเสียงแตกโหดๆหน่อยจะออกแนวไฮโซเมายาดอง คือเสียงออกคมๆไม่ค่อยอึ้บเท่าไหร่ แต่จะกลัวอะไรอยากเฮฟวี่เราก็ซัดGIBSONดิ่.............แฮะๆๆๆๆ
รูปสวยๆนี่ฝีมือพี่หมอเอครับ แรกๆกะว่าจะถ่ายรูปใหม่หมด แต่ดูจากรูปเก่าแล้วด้วยลำพังฝีมือผมเองคงจะดึงศักยภาพได้ไม่ดีเท่าไหร่ คิดว่าของเดิมเค้าก็ถ่ายได้ดีอยู่แล้ว เลยขอเอารูปเก่ามาลงดีกว่า ขอบคุณพี่หมอเอมา ณ ที่นี่ด้วยครับ
ถามว่าตัวนี้จบมั้ย? สำหรับผมคงตอบไม่ได้นะครับ 555 แต่พอใจมากๆ ณ จุดนี้ ยังไม่กล้าออกปากว่าจะเป็นตัวสุดท้าย เพราะถ้าถึงเวลาเจอตัวที่ใช่และเงินพร้อมก็ไม่แน่เหมือนกัน 555

สวัสดีครับ :D