วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2564

นาโกย่า-โอซาก้า และวืด ภาค 6

มีนาคม 2564

ผ่านมา 1 ปีเต็ม การแพร่กระจายของเชื้อ Covid-19 ยังคงมีอยู่ มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อโรคนี้ทั่วประเทศหลายร้อยคน ทำให้เรายังไม่สามารถเดินทางไปญี่ปุ่นได้ จริงๆทางการญี่ปุ่นก็ไม่ถึงขนาดปิดประตูไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวซะทีเดียวแต่มีเงื่อนไข คือ

-          อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่มีญาติหรือคนรู้จักที่พำนักที่ประเทศญี่ปุ่นเดินทางมาได้ โดยต้องให้เจ้าบ้านทำหนังสือรับรองการเดินทาง = ตัวเลือกนี้ตัดไปได้เลย

-          อนุญาตให้แรงงานไทยกลับไปทำงานที่ญี่ปุ่นได้ตามปกติ = ตัวเลือกนี้ตัดออกไปเช่นกัน

-          จากตัวเลือกทั้งสอง เมื่อเข้าไปที่ประเทศญี่ปุ่น ต้องทำการกักตัวก่อน 14 วันแล้วจึงสามารถเดินทางภายในประเทศญี่ปุ่นได้ = จาก 1+2 = จบเลย

 

จากข่าวสารที่เราได้รับข้างบน จึงได้แต่รอย่างเดียวครับ จอบอ จบ

นาโกย่า-โอซาก้า และวืด ภาค 5

 

กุมภาพันธ์ 2563

จากตอนที่แล้ว เมื่อได้ข้อสรุปเรื่องการเดินทางแล้วเราก็มาเก็บตกส่วนที่เหลือ

-          แผนการเดินทางในแต่ละวัน ไปซื้อของร้านไหน เดินทางยังไง อยู่โซนไหน ราคาเท่าไหร่ แวะกินข้าวที่ไหน ขากลับเดินกลับทางไหน จัดลำดับความสำคัญ

-          กันเหนียวเผื่อหลง เราเข้าไปเช็คที่ Google Map เพิ่มเติม เข้าไปดูรูปของสถานที่จริงเลยว่า สิ่งแวดล้อมรอบด้านเป็นยังไง ปากซอยเป็นร้านอะไร เข้าซอยไหนทะลุไปเป็นร้านอะไร มีจุดสังเกตยังไง โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อเผื่อยามดึก เรียกได้ว่านั่งสำรวจเส้นทางกันเหนียวกันเป็นเดือนๆเลยทีเดียว เพราะเป็นเส้นทางใหม่ที่เราไม่คุ้นเคย จึงต้องหาข้อมูลเยอะหน่อย

 

เมื่อได้ข้อมูลจนตกผลึก เราก็เฝ้ารอวันที่เดินทางอย่างเดียว

 

จากนั้น มีข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรน่า หรือ Covid-19 ซึ่งเริ่มรุนแรงและลามมาถึงญี่ปุ่น แรกเริ่มเราคิดว่ามันคงไม่อันตรายขนาดนี้ ก็คิดแต่ว่าถึงวันเดินทางคงไม่มีอะไร และคงไปทันช่วงโอลิมปิคพอดี แต่เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่เราคิด เชื้อแพร่ระบาดไปทั่วโลกจนส่งผลกระทบถึงเรา ทั้งไทย ญี่ปุ่น และทั่วโลกมีการปิดประเทศ ในปี 2020 จนถึงปัจจุบัน สายการบินหลายๆสายทำการเลื่อนเที่ยวบิน รวมถึงของเรา แล้วจะทำยังไงล่ะ?

 

มีนาคม 2563

ข่าว Covid-19 มีแต่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ปัญหาที่เราเจอมีอยู่ 2 เรื่อง คือที่พักและสายการบิน

-          สำหรับโรงแรมที่พัก ทางเวป Booking ยังไม่มีมาตรการเยียวยาอะไร โชคดีของเราสำหรับที่พักที่จอง สามารถยกเลิกได้ฟรี จึงต้องทำการยกเลิกก่อน เพราะปัญหาใหญ่กว่าของเราคือ ตั๋วเครื่องบินเพราะจ่ายเงินเติมไปแล้ว

-          แอร์เอเชียเจอปัญหาเดียวกับสายการบินอื่น คือ ไม่สามารถทำการบินทั้งในและนอกประเทศได้ เป็นเหตุให้ขาดสภาพคล่องในการชำระเงินคืนให้ลูกค้า เมื่อครั้งที่สายการบินเปิดระบบให้ลูกค้ายื่นคำร้องขอคืนเงินผ่านระบบ AI เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น เราเจอปัญหาต่างๆมากมาย จึงตัดสินใจเดินทางไปที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่โดยตรง ต่อมา เรื่องของเราได้ส่งผ่านระบบและได้คำตอบว่า ทางสายการบินไม่มรีเงินสำรองจ่ายพอ แต่ลูกค้าสามารถเก็บเป็นเครดิตได้ 2 ปี ถึงเดือนเมษายน 2022 แม้จะเป็นคำตอบที่ไม่น่าพอใจ แต่ก็ต้องเฝ้ารออย่างมีความหวังว่าวันนั้นเราจะได้เดินทางสมดังตั้งใจ

 

ความรุนแรงของการแพร่กระจาย Covid-19 ส่งผลถึงการทำงานของผมด้วย เราไม่สามารถเดินทางได้สะดวกจากระบบขนส่งสาธารณะเนื่องมาจากการสัมผัสโดยตรง และการเดินทางมาทำงาน เพราะแต่ละองค์กรลดความเสี่ยงการปะปนของผู้คนภายในอาคารที่จะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เราต้องทำงานที่บ้านสลับกับการมาทำงานที่สำนักงานในบางวัน เริ่มทำกับข้าวกินเองที่บ้าน ฯลฯ

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

นาโกย่า-โอซาก้า และวืด ภาค 4


ต่อมาก็มาวางแผนกันว่าจะไปที่ไหนบ้าง อย่างที่เคยบอกไปคราวก่อนว่า
1.ตั๋วเครื่องบินจากกรุงเทพไปโอซาก้ามีแต่เวลาดึกซึ่งสุ่มเสี่ยงจะตกรถไฟเข้าเมือง
2.ตั๋วเครื่องบินไปโตเกียว Low Cost มีราคาสูงพอๆกับสายการบินปกติ
3.มีแต่ตั๋วเครื่องบินไปนาโกย่าที่ราคาพอรับได้ บินดึกถึงเช้า

จากเหตุผล 3 ข้อ ทำให้คิดไม่ยากเลยว่าจะไปไหน เราอาศัยเฉพาะสนามบินชุบุเป็นแค่ทางผ่าน โดยมีจุดหมายคือที่โอซาก้า หลังจากจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยก็มาวางแผนสำหรับที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่ม

ด้วยความที่ย่านชินไซบาชิเป็นแหล่งนึงที่รวมหลายๆอย่างทำให้ง่ายต่อการวางแผน แต่ไม่ใช่ว่าโซนอื่น เช่น อูเมดะจะไม่ดี แต่เรามองว่าถ้าโรงแรมอยู่ตรงนี้ รถไฟไม่ไกล กินช็อปก็อยู่ตรงนี้ ก็อย่าคิดซับซ้อนให้ลำบากเลย เอาง่ายๆนี่ล่ะ แฮะๆๆ 

ส่วนขากลับ หลังจากดูเวลาเครื่องออกทุกรอบแล้ว เห็นต้องตรงกันว่า คงต้องกลับที่สนามบินจุบุเหมือนเดิม ในเวลา 09.00 น. จึงมีปัญหาที่เราต้องพิจารณาคือ 
1.เราพักที่โอซาก้า กินเที่ยวที่นี่ ต้องมาคำนวนการเดินทางไป-กลับใหม่
2.ถ้าจะเปลี่ยนเที่ยวบินกลับโอซาก้าแทนล่ะ(ไปจุบุ-กลับโอซาก้า) เช็คราคาตั๋วก็ทะลุเป้าเกิน 
3.เราต้องมาถึงสนามบินก่อนเครื่องออก 2 ชั่วโมง เท่ากับว่าต้องมาถึงสนามบินก่อน 7.00 น. เช็คตารางเดินรถไฟจากเวป Hyperdia 
    3.1 ทางเลือกที่ 1 ถ้าพักที่โรงแรมในชินไซบาชิ รถไฟเที่ยวแรกวิ่งเวลา 05.43 น. มาถึงสนามบินจุบุ 07.52 น. แต่ต้องเผื่อเวลาในการเดิน หรือเดินหลงอีกด้วย ดูเวลาแล้วไม่น่าจะทัน
    3.2 ทางเลือกที่ 2 ถ้าพักที่โรงแรมในตัวเมืองนาโกย่า รถไฟเที่ยวแรกวิ่งเวลา 05.18 น. มาถึงสนามบินจุบุ 06.06 น. แต่ต้องเผื่อเวลาในการเดิน หรือเดินหลงอีกด้วย ตีซะว่าช้าสุดคือ 06.30 น.ก็น่าจะมีเวลาเหลือเฟือ แต่เท่ากับคุณจะพลาดมาให้ทันรถไฟขบวนแรกๆให้ได้ ไม่งั้นจะมีปัญหาเรื่องเวลาทันที และอาจตกเครื่อง
   3.3 เมื่อทางเลือก 1 และ 2 มันบีบมาก จริงเป็นทางเลือกที่ 3 คือ หาที่พักวันสุดท้ายติดสนามบินจุบุ ไม่ต้องกังวลเรื่องตกเครื่อง ตกรถไฟ ถึงค่าโรงแรมจะแพง บวกลบคูณหารกับค่ารถ ค่าเสียเวลา น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2563

นาโกย่า-โอซาก้า และวืด ภาค 3


1.ย้อนมาประเด็นที่ว่าไปญี่ปุ่นเพื่ออะไร?
ความตั้งใจหลักคือ ไปซื้อของครับ หลายๆอย่างที่บ้านเราไม่มีขาย เช่น ขนม เอฟเฟค สายแจ็ค กระเป๋าทำงาน

2.ขนม-อาหารอะไร?
จะว่าไปขนมญี่ปุ่นที่มาขายบ้านเราก็มีหลายอย่าง และแพงกว่ากันไม่กี่บาท อันนี้ไม่อยู่ในเป้าหมายของเรา ในส่วนที่เราสนใจคือ พวกเครื่องปรุงทำอาหาร เช่น พริกป่นญี่ปุ่น ผงโรยข้าว ฯลฯ บ้านเราขาย 70-100 กว่าบาท ในขณะที่ญี่ปุ่นผมเคยไปเจอที่ร้าน Cando ซึ่งเป็นร้าน 100 เยน คือ ตกอันละ 30 บาทเท่านั้น แล้วของไม่ใช่ไก่กาอาราเร่อะไรเลย เกรดเดียวกับอันที่มาขายบ้านเรา 70 บาทละ

พูดถึงเรื่องของกิน ไม่ใช่เรื่องซื้ออย่างเดียว มีอยู่หลายเมนูที่เราอยากไปชิมด้วย เช่น ซูชิ ราเม็ง ปลาไหล โอโคโนมิยากิ ไอติม ฯลฯ เห็นราคาและการบริการหลายๆร้านในบ้านเราแล้วหงุดหงิด บางร้านราคามหาโหด ไม่ค่อยง้อลูกค้า แถมมีตัวเลือกน้อย การไปกินอาหารถึงแหล่งกำเนิดในราคาที่เหมาะสมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

3.เอฟเฟค สายแจ็ค กระเป๋าทำงาน
อุปกรณ์ดนตรีหลายๆอย่างหาซื้อได้ในบ้านเรา ไมมีก็สามารถสั่งออนไลน์ได้ แต่ราคาและบริการก็อีกเรื่องนะจ๊ะ เช่นกัน มีอยู่หลายๆอย่างมันค้างคงตั้งแต่คราวก่อน ไม่ได้ซื้อมา ก็เคยคาใจจนถึงปัจจุบัน รอบนี้กะว่าจะจัดการให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวซะ

ส่วนกระเป๋าทำงาน จากกระทู้ก่อนๆที่เล่าไป ประทับใจดีไซน์ และความทนทานของ Yoshida ด้วยความไม่เกร่อไม่โหลด้วย เลยคิดว่าจะต้องมีใบต่อไปแน่นอน ขอเป็นกระเป๋าหนังสีน้ำตาล ใจจริงก็อยากได้กระเป๋าหนังแบรนด์คนไทยนะ แต่การตัดเย็บ ดีไซน์มันยังไม่ได้ รวทถึงซิปที่ใช้ก็ไม่ทนทาน เสียง่าย เลยตัดไป เสียน้อยเสียมากเสียยากเสียง่าย

เข้าไปหาข้อมูลในเพจ Yoshida ก็มีหลายรุ่นน่าสนใจ เลยเซฟรูปไปเยอะๆ เพราะคราวก่อนที่ไปซื้อที่ห้าง Tokyu Hands มีแบบให้เลือกน้อยไปหน่อย รอบนี้ที่ Shinsaibashi มีทั้งห้าง Tokyu Hands และสาขาของ Yoshida ด้วย เจอที่ไหนก็ซื้อเลย








วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2563

นาโกย่า-โอซาก้า และวืด ภาค2


เมื่อเราจองตั๋วเครื่องบินไปแล้ว จึงเริ่มค่อยๆต่อจิ๊กซอทีละชิ้น เริ่มจากตั้งเป้าว่าเราจะไปไหนบ้าง โดยมองจากกิจกรรมที่เป็นไปได้ก่อน เช่น Universal Studio แหล่งช็อปปิ้ง ร้านกีตาร์ ห้าง Tokyu hands ร้านอาหารชื่อดัง รวมถึงการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ซึ่งมันมีอยู่หลายสถานที่ที่น่าสนใจที่เราจะตั้งต้นปักหลักพักโรงแรม ถ้าเป็นคนไทยคงเป็นย่านอูเมดะ แต่พอมานั่งคิดแล้ว ชินไซบาชิน่าจะตอบโจทก์เรามากกว่าเพราะเดินทางง่าย เป็นแหล่งร้านกีตาร์ มีห้าง Tokyu Hands มีห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารเยอะ ฯลฯ รวมถึงโรงแรมที่เราเล็งก็ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ เดินจากสถานีทางออกไม่ถึง 2 นาทีก็เจอ

จากนั้นเริ่มมาวางแผนการเดินทางโดยใช้ Hyperdia เป็นอะไรที่มาตรฐานสุดและเชื่อถือได้ แล้วค่อยๆหยอดโปรแกรมแทรกไป ในทุกวัน หลังเลิกงาน ผมจะเช็คเส้นทางเดินเท้าโดยใช้ Google Map ประกอบ เพื่อให้เห็นภาพจริง แก้ไปแก้มาอยู่หลายวันจนได้ที่พอใจ

เราจึงมานั่งคำนวนค่าใช้จ่ายอีกครั้ง ค่ารถก็คำนวนจาก Hyperdia นั่นล่ะ ค่าของต่างๆก็หาจากเวปไซด์ของยี่ห้อสินค้า หรือกะเอา ส่วนค่ากินก็ตีไปว่ามื้อละพันบาทก่อน แล้วจึงไปแลกเป็นเงินเยนเตรียมไว้ ส่วน JR-Pass บวกลบกับค่ารถแล้ว ยังไม่จำเป็นต้องซื้อเพราะเราไปไม่กี่ที่แม้จะนั่งชิงกังเซ็นก็ตาม

เป็นอันว่าน่าจะจบแล้ว รอแต่วันเดินทางอย่างเดียว

วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2563

นาโกย่า-โอซาก้า และวืด ภาค1


16 มีนาคม 2563

วันนี้ว่างๆ ไม่มีอะไรทำก็ขออัพบล็อคซะหน่อย...

กลางปี 62 มีโปรโมชั่นของสายการบินแอร์เอเชีย เราตั้งเป้าว่าจะไปช่วงสงกรานต์ปี 63 ดูราคาแล้วก็ยังแพงแต่ก็พอรับได้ เป้าหมายแรกอยู่ที่โตเกียวเหมือนเดิม เช็คราคาแล้วเราช้าไม่ทันคนอื่น ราคาโปรไม่เหลือโดนสอยตัดหน้าหมด ข้ามไปดูสายการบินอื่น ราคาทะลุพิกัดเกินจะรับได้ ปรึกษากับที่บ้านส่งสัญญาณว่าไปทำไมโตเกียว ไปหลายรอบแล้ว เปลี่ยนไปโอซาก้าเดี๋ยวนี้ จึงต้องเปลี่ยนเป็นเป้าหมายที่สอง เช็คราคาตั๋วพอรับได้ แต่เที่ยวบินไปโอซาก้าเครื่องบินลงเวลา 4 ทุ่มกว่าๆทุกวัน มีความเป็นไปได้ว่าจะตกรถไฟ (รถไฟหมด 5 ทุ่มตรง) เลยต้องมีแผนสำรองเป็นเป้าหมายที่สาม คือ นาโกย่า ที่ราคาตั๋วพอรับได้ และเวลาไปกลับไม่ตึงมาก

17 มิถุนายน 2562
เช็คเวลาไปกลับกำลังดี ราคาพอรับได้จึงทำการจองไป (10 เม.ย.63 - 14 เม.ย.63) ที่สนามบินจุบุเซ็นแทร์ นาโกย่า ใช้บัตร KTC รูดปรื๊ดตัดบัตรเรียบร้อย พร้อมกับจองโรงแรมเสร็จสรรพผ่าน Booking.com (ยกเลิกฟรี) ขณะเดียวกันก็เริ่มหาข้อมูลเที่ยวนาโกย่าไปพลางๆด้วย คิดถึงอาหารสไตล์นาโกย่า เช่น ไก่ทอดยามะจัง เป็นอย่างแรก

เมื่อทำการจองและจ่ายเงินเสร็จ ก็ไลน์ไปบอกแม่บ้าน ได้รับคำตอบว่าไม่แฮปปี้ทริปนี้ ด้วยความที่อยากไปโอซาก้ามากกว่า เพราะมีโคนัน ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ และไม่เคยไป ความเครียดเริ่มมาเยือนอีกครั้ง เพราะจ่ายเงินไปแล้ว จึงต้องหาข้อมูลเพิ่ม พบว่ามีรถไฟชิงกันเซ็นจากนาโกย่าไปโอซาก้าได้ คำนวนค่ารถไฟพอรับได้ ก็โอเคตามนั้น

วันต่อมา โปรโมชั่นแอร์เอเชียที่ผมจองยังโฆษณาอยู่ ด้วยความโรคจิต เข้าไปเช็คเที่ยวบินเดียวกัน ราคาถูกกว่าที่จองเกือบๆ 60% เหมือนโดนหลอกอย่างแรง โทรไป Call center แอร์เอเชีย ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ บอกแต่ว่าคุณจองไปแล้วยกเลิกไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น เลยติดต่อ Call Center KTC ก็บอกเงินตัดไปแล้วทั้งที่ผ่านไปวันเดียวทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็มีถามทิ้งท้ายว่าให้ช่วยอะไรมั้ย? เลยตอบว่าถ้าทำอะไรไม่ได้ก็ไม่ต้อง คงไม่ใช้บริการกับสายการบินนี้อีกต่อไป รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง ได้แต่จำไว้เป็นบทเรียนว่า อย่าให้ถึงคราวตรูบ้างละกัน...

เราจึงก้าวข้ามเรื่องนี้ไป ไม่อยากเก็บเป็นอารมณ์เดี๋ยวจะเที่ยวไม่สนุก จึงเริ่มหาข้อมูลการเที่ยวโอซาก้า นั่งหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ด้วยความที่วันหยุดสงกรานต์มีน้อย มีแค่ 4 วัน การจะตระเวนเที่ยวไปหลายๆที่อย่างเกียวโต นารา คงทำได้ยาก ประกอบกับด้วยนิสัยบ้านเราที่นอนดึก-ตื่นสาย-ขี้เกียจเดิน ตามสไตล์ไทยแท้ จึงต้องวางแผนเที่ยวแบบบ้านเราเอง ไม่ควรลอกตำราชาวบ้านเค้า เราจึงเน้นกินเป็นหลัก ช็อปปิ้งเป็นรอง และเที่ยวเป็นลำดับสุดท้าย

ย้อนกลับมาจุดประสงค์การเที่ยวครั้งนี้เพื่ออะไร?
1.ยังมีความรู้สึกค้างคาจากการเที่ยวครั้งก่อน คือ อยากได้เอฟเฟคยี่ห้อนึง คราวก่อนไปถึงร้านแล้วแต่ใจไม่กล้าพอ เสียดายเงินเพราะแพงเกินเลยไม่เอา จากวันนั้นถึงวันนี้เลยคิดว่าต้องเอาละวะ ยิ่งบ้านเราไม่มีขายก็ต้องเอามาก่อน
2.จากคราวก่อน รู้สึกประทับใจกระเป๋า Yoshida Porter ดีไซน์สวย เบา ทนทาน เลยอยากได้อีกใบเป็นกระเป๋าหนังสีน้ำตาล ที่มีขายในบ้านเรามีห้เลือกน้อย ราคาก็แพง
3.ในเมื่อไปดูกระเป๋าแล้ว ถ้ามีเวลาก็จะแวะไปร้าน Freitag เผื่อด้วย ตอนไปสวิสก็ไม่ได้แวะ ฝากเจ้าหมูดำซื้อและไม่ได้เลือกเอง บ้านเราก็ราคาแพง
4.Universal Studio มีธีมโคนัน เป็นเป้าหมายหลักของบ้านเรา ถามว่าจะเล่นเครื่องเล่นครบทุกอันมั้ย? คงไม่หรอกเพราะเจ้าหมูดำไม่ชอบเล่นเครื่องเล่นผาดโผน แต่ไปเอาบรรยากาศแน่นอน