วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Guitar ที่ตามหามานานมากๆ :D

ย้อนไปเมื่อตอนผมอายุ 14 พ่อของเพื่อนผมเป็นนักดนตรี เวลาผมตามเพื่อนไปซ้อมดนตรีที่บ้านเพื่อนคนนี้ก็จะเห็นพ่อของเพื่อนนั่งเล่นกีตาร์และแกะเพลงที่จะใช้เล่นกับวงของแกในคืนนั้นๆอยู่เสมอ กีตาร์ตัวนั้นก็คือ Gibson Lespaul Custom สีดำ






















ตอนนั้นแค่เห็นทรงของมันก็โคตรชอบแล้ว พอได้ยินเสียงที่แกเล่นผ่านกีตาร์ตัวนี้ก็รู้สึกคลั่งไคล้มากยิ่งขึ้น มันร็อคได้ใจ หนักแน่น มีพลังดีแท้ ซึ่งเป็นยุคอัสนี-วสันต์ดังพอดี พอถึงจังหวะที่แกพักผมก็จะขอเพื่อนจับและลูบคลำกีตาร์ทั้งที่เล่นไม่เป็น คิดว่า...ซักวันนึงกีตาร์ตัวนี้เราต้องหามาให้ได้

















3 ปีผ่านไป พ่อของเพื่อนเปลี่ยนกีตาร์มาใช้ Fender Startocaster American Standard ซึ่งผมยังเล่นกีตาร์ไม่เป็นเหมือนเดิม(ตอนนั้นเป็นนักร้อง-มือคีย์บอร์ดครับ) แต่ก็เริ่มศึกษาข้อมูลมาเรื่อยๆว่าทำไมคนเล่นกีตาร์ทรงนี้กันเยอะมากๆ จนเข้ามหาวิทยาลัยก็เริ่มเล่นกีตาร์ครั้งแรก(ตอนปี 4...เริ่มช้าไปไหมหว่า?) กีตาร์ตัวแรกก็เป็นยี่ห้อ Venson ทรง Start จากนั้นก็เล่นกีตาร์ทรงนี้มาโดยตลอด

เวลาผ่านมาก็เริ่มเห็นข้อดี-ข้อเสียของทรงStart คือคอเป็นมิตร อะไหล่หาง่าย มีอุปกรณ์อย่าง Pickup Pickguard หย่อง คันโยกต่างๆ ฯลฯให้เลือกเยอะแยะไปหมด แต่ถ้าต้องการเสียงที่อ้วน หนา ใหญ่ ความกำธรของเสียงกังวาล และSustainที่ยาวคงลำบากหน่อย เคยเอากีตาร์ตัวเก่าๆไปแต่งโน่นทำนี่ แต่ก็พบว่า....การไปแต่งเติมเสริมอะไรต่อมิอะไรส่งผลกระทบตามมาพอสมควร ทั้งราคาขายต่อ และการเสียเอกลักษณ์ของกีตาร์นั้นๆ ได้แต่เก็บความลังเลนี้ไว้ในใจต่อไป....

ก่อนหน้านั้นเคยไปลองทรง LesPaul ยี่ห้ออื่นๆที่ทำในญี่ปุ่นบ้าง เกาหลีบ้าง แต่ก็เหมือนจะมีปัญหา(ส่วนตัวของผมเอง)หลายๆอย่าง เช่น คออ้วน-ใหญ่ไปบ้าง คอแบนไปบ้าง เนื้อเสียงบางบี้ ราคาไม่สมคุณภาพ น้ำหนักมากแบกไม่ไหว ฯลฯ















ปี 2008 ผมได้มีโอกาสไปที่ประเทศญี่ปุ่น และได้แวะไปที่ร้านกีตาร์ที่ชิบูญ่าร้านนึง นั่นคือ ร้าน Amp Station ซึ่งเป็นร้านในเครือ Ikebe โดยความตั้งใจจริงของผมคือ จะไปลองEffectตัวนึงคือ Zvex Box of Metal แต่ไปมาๆกลับชอบใจในเสียงกีตาร์ที่เค้าเอามาให้ลอง นั่นคือ Gibson Lespaul Standardเก่าๆตัวนึง รู้สึกประทับในสัมผัสของคอที่พอดีมือไม่เหมือนกีตาร์ยี่ห้ออื่นๆที่เคยลองมา และเนื้อเสียงที่แผดสะใจมากๆ นี่คงเป็นสิ่งที่ผมตามหามานาน เค้าถึงว่าไม่ใช่ Gibson ทำแทนกันไม่ได้เป็นแบบนี้นี่เอง ครั้นจะซื้อกีตาร์ตัวนี้กลับมาด้วย เมียกับลูกคงไม่แฮปปี้ด้วย.....แฮะๆๆๆ

ปี 2010 ผมเริ่มมีความรู้สึกอิ่มตัวกับบรรดาเอฟเฟคทั้งหลาย เหมือนเราเจอเอฟเฟคที่ใช่แล้ว ตู้แอมป์ที่ใช่ก็มีแล้ว สายCableก็มีละ กีตาร์โปร่งที่ชอบก็มีละ แล้วกีตาร์ไฟฟ้าล่ะ?!

เหมือนFenderตัวที่มีน่าจะตอบอะไร ณ ปัจจุบันได้ในระดับนึง แต่........ความเป็นจริงคือ s-s-s มันก็ทำงานได้ในระดับนึงตามเอกลักษณ์ของมัน แต่จะให้ร็อคตลาดแตกแบบที่ต้องการก็เค้นกันเหนื่อยหน่อย ไอ้ครั้นจะไปโมด์กีตาร์แบบเมื่อก่อน คงไม่ คือเรายังชอบกีตาร์สไตล์นี้อยู่้ คิดว่าการหากีตาร์อีกตัวที่มีสไตล์ที่แตกต่างออกไปน่าจะง่ายกว่า การเดินทางครั้งใหม่จึงเริ่มต้น ณ บัดนั้น


















2010 -2012 ผมตระเวนลองกีตาร์ Lespaul ยี่ห้อต่างๆไปเรื่อยๆ ไปนั่งลองที่ร้านนั้นร้านนี้แทบทุกอาทิตย์ จนรู้ว่าสิ่งที่เราต้องการคือ กีตาร์ Lespaul คอ 60 เพราะคอ 50คงจะใหญ่ไปสำหรับผม , เฟรมสำคัญมั้ย? ก็คิดว่าถ้ามีก็ได้ แต่ก็ไม่จำเป็นมากนัก แรกเริ่มคิดว่าจะตกลงปลงใจกับ Lespaul Classic เพราะราคาถูกสุด(แต่ก็ยังแพงอยู่ดี ^^") ลองไปเรื่อยๆ เก็บข้อมูลมากขึ้นก็คิดว่า...เอาทั้งทีให้สุดๆไปเลยดีกว่า

ต้นปี 2012 ทางร้าน Music Concept มีกาีรสั่ง Gibson Custom รุ่น Reissueเข้ามาผมก็ไม่พลาดไปนั่งลองกับเค้าด้วย ไปเล่นก็พบข้อแตกต่างหลายๆอย่างกับกีตาร์สายการผลิตทั่วไป ทั้งเรื่อง สัมผัสที่ได้จากกีตาร์ที่ทำให้เก่า น้ำเสียงแบบดั้งเดิม แผ่นไม้Solidที่ให้เนื้อเสียงที่แน่นกว่าแบบโพรงชีสในรุ่นใหม่ ฯลฯ

ในใจคิดว่า "เอาละวะ คงจะเป็นรุ่น Reไม่ 58 ก็ 60 นี่ล่ะ " ส่วน 59ผมคงไม่หวังขนาดนั้น เนื่องด้วยกีตาร์รุ่นนี้คิวจองที่ร้านยาวเป็นหางว่าว และบอกตามตรงว่าผมก็ไม่เคยลองเหมือนกัน แฮะๆๆๆ ^^"

จนเมื่อมีนา-เมษายนที่ผ่านมา มีน้องชายสุดLoveท่านนึง ส่งซิคมาว่ามี Gibson ตัวนึงหลุดมาในเน็ท ตรงตามสเปคที่ผมอยากได้พอดีคือ สีSunburst คอ 60 ไม่ต้องมีเฟรมก็ได้ เป็นกีตาร์ปีใหม่ รุ่น Reissue1960 และราคาโอเค ที่สำคัญเป็นของแถมคือ ครบรอบ 50THของรุ่น Lespaul ด้วย มีหรือที่ผมจะพลาด

นี่คือรูปกีตาร์ตัวดังกล่าวที่ทางเวปต่างประเทศลงโฆษณาไว้ เห็นแล้วก็ปรี๊ดมาก!!! เกิดความอยากอย่างแรง เลยให้น้องชายสุดLoveคนเดิมจัดการสั่งให้เรียบร้อย























จากนั้นก็รอๆๆๆๆ 1 เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก กีตาร์เจ้าปัญหาก็มาถึงเมืองไทย สิ้นสุดการรอคอยเกือบๆ 21 ปีที่ตั้งใจไว้ - -"

แต่ใช่ว่าหนทางจะโรยด้วยกรีบกุหลาบเสมอไป กีตาร์ตัวนี้บอกตรงๆว่าภรรเมียและลูกสาวจอมเฮี้ยวไม่ทราบเรื่อง การจะนำเข้าบ้านไม่ใช่เรื่องง่ายๆเหมือนกัน ผมต้องเช็คโปรแกรมว่าวันไหนเมียจะกลับบ้านดึกเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน(555) รวมถึงช่องทางการไปรับกีตาร์จากน้องชายคนนี้ด้วย

มีวันนึงโชคเข้าข้างต้องออกไปติดต่องานข้างนอกและต้องเบิกรถบริษัทไป แหม...เข้าทางโจรพอดี ทำธุระเสร็จเกือบๆบ่าย 2 ก็ไปรับกีตาร์ทันที คืนทีั่่เอาเข้าบ้านก็ดูลู่ทางประตูหน้าบ้านปลอดคนแอบแหมะไว้ก่อนแล้วหลอกล่อลูกสาวไปอีกทาง ปลอดภัยไร้กังวล อิอิ





























นั่งลองเล่นมาได้ 2 ครั้งแล้ว(ลูกสาวตัวแสบเห็น ถามทันทีว่ากีตาร์ตัวใหม่เหรอพ่อ เลยบอกว่า Fender  นี่ยกให้หนูแล้วไง เรื่องนี้เลยเงียบไป อิอิ) ก็ตรงตามที่ใจปรารถนาจริงๆ ทั้งสัมผัส บาลานซ์ทีไ่ด้ และที่แปลกใจมากๆคือ เสียงClean ทั้งปิ๊คอัพหน้าและหลัง Smoothมากๆ หวานกำลังดี และน้ำหนักกีตาร์พอดีๆ ขนาดคอถือว่ากระจับมือ คือ หนากว่า Fender แต่ใกล้เคียงกับ Martinตัวที่ผมมีอยู่ ถือว่าไม่ต้องปรับตัวมากอะไร แม้จะไม่ใช่รุ่นแพงที่สุดของGibson แต่ก็ถือว่าผมไำด้สิ่งที่ผมต้องการแล้ว

ท้ายนี้ขอบคุณน้องนัท Sukkawadee และัน้องโน๊ต ที่เป็นธุระนำกีตาร์ดีๆมาให้ผมเล่น รวมถึงร้าน Music Concept ที่เอื้อเฟื้อกีตาร์ดีๆให้ลองและข้อมูลต่างๆด้วยครับ ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น