วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554

บี พีระพัฒน์@Medium Rare





Friday_Song for Tomorrow


อัลบั้มนี้ซื้อมาได้หลายเดือนละ ไม่ได้อัพซะที 555 ชุดนี้ออกมาได้ปีสองปี ขอเล่าความประทับใจให้ฟังก่อน

เมื่อปี 49 เผอิญได้ไปเจอ










Side Project ของ Guthie Govan

Side Project ของมือกีตาร์ที่ร้อนแรงที่สุดคนนึงของยุค Guthie Govan ชาวอังกฤษ ที่เล่นได้ดีมากๆในทุกๆแนว

Guthieเป็นมือกีตาร์รับเชิญให้วงดนตรีชื่อดังหลายๆวงทั้ง Fellowship, GPS, Asia, Dizzee Rascal, Docker's Guild, จนถึงวงล่าสุดThe Aristocrats

ในส่วนมือเบส บอกตรงๆว่าไม่รู้จัก ถ้าถามว่าเป็นไงก็ฝีมือดีนะ ส่วนมิอกลองคือ Marco เคยเล่นกับ Paul Gilbert รวมถึงเคยออดิชั่นกับ Dream Theater ดังนั้นไม่ธรรมดาแน่นอน

เพลงก็มีทุกแนวจริงๆ แจ๊สจ๋ายันเมทัล ชอบก็หาฟังกันได้จ้า



อะไหล่Iphone

วันก่อนไปเดินคลองถมก็นึกถึงอะไรหลายๆอย่างว่า...มีอะไรที่เราต้องสำรองไว้ใช้บ้างนะ ก็นึกถึงอุปกรณ์มือถือตัวเก่งหลังจากใช้ของก๊อปจีนแดงมาพักนึง ก็เหมือนจะคุ้มกับเงินที่เสียไปละ ได้เวลาหาเส้นสำรองมาใช้ยามฉุกเฉิน

เดินๆถามไปหลายเจ้า ฝนก็ตกหนัก จนเบื่อๆอยากกลับบ้านละ เจอเจ้านึงขายทั้งสายชาร์ตกับหูฟัง ต่อไปต่อมาได้ราคา 2 อย่าง 200 ก็โอเคถือว่าราคารับได้ เพราะคราวก่อนสายชาร์ตอย่างเดียว 150 บาท

ตอนนี้ก็ไว้สำรองที่บ้าน ส่วนเส้นเก่าก็เปื่อยไปถึงสายไฟด้านในละ คงได้ไปหาเส้นสำรองใหม่อีกที 555


Big Ass...Love

เดือนที่แล้วไปเดิน Centerone เจอซีดีเพลงมิอสองน่าสนใจหลายตัวเหมือนกัน หนึ่งในนั้นคือ Bigass ชุด Love

บิ๊กแอสชุดนี้บอกตรงๆว่า ตอนออกใหม่ๆผมฟังจาก MP3ซะส่วนนึง รู้สึกว่าความหนักแน่นทางดนตรีลดลงไปมาก ก่อนหน้านี้วงนี้จะค่อนข้างตามกระแสดนตรีโลกพอสมควร โดยชุด Seven จัดว่าเป็นอัลบั้มที่มีเสียงตอบรับดีที่สุด เพลงทุกเพลงฮิตติดชาร์ต ได้รางวัลมากมาย แต่ผมว่ามันมีจุดอ่อนคือ มือกลองยังไม่เก่งพอ สังเกตจากชุดก่อนหน้านี้ เราจะได้เห็นไลน์กลองเห่ยๆในหลายๆเพลง ในอัลบั้มSevenถ้าสังเกตดีๆก็พบรอยโหว่ของกลองในหลายๆเพลง เช่นท่อนIntroของเพลงยักษ์ใหญ่ฯที่ตีเหลื่อม-น้ำหนักไม่ได้ ฯลฯ

กาลเวลาผ่านไป เหมือนทางวงก็ทราบปัญหานี้ดี ในอัลบั้ม Begin ซึ่งเป็นกระแสHard Rockอย่างวงkillswitch engage มาแรง กลองบอกตรงๆว่าสะเด่ามากๆตีได้หนักหน่วง Timingเป๊ะๆ ลูกโปรยต่างๆมีครบไม่ก๊องแก๊งแบบเมื่อก่อนละ ส่วนตัวผมให้เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดของวงเลยล่ะ สมบูรณ์ทั้งไลน์ดนตรีทุกชิ้น เนื้อหาเพลงที่คมคายมากๆ เสียงร้องที่ชัด

มาว่าที่อัลบั้มนี้ เสียงแด๊กไปแล้วหมดแล้ววว อัลบั้มหน้าต้องดูว่าจะเอากันอย่างไรต่อไป กีตาร์คมเหมือนเดิม แต่...นับวันเข้าก็เริ่มชัดเจนว่า มือกีตาร์สองคนฝีมือห่างกันราวนรกกับเหว ส่วนเนื้อหาเข้าเรื่องปรัชญา ไม่ใช่เพลงรักซ้ำๆแบบวงอื่นๆ หลายๆเพลงมีเสียงซินธิไซเซอร์มาเจือสร้างสีสันให้พอละมุนได้บ้าง(ฝีมือพี่โอมเช่นเคย)

สรุปว่าดนตรีพอฟังขำๆได้ เนื้อหาคมและบาดมาก แต่อย่าเอาความสำเร็จจากชุดก่อนๆมาเปรียบ ไม่งั้นกร่อยแน่ๆ



YUI ศิลปินสาวแดนอาทิตย์อุทัย

ปี 2008 มีนักร้องสาวคนนึงที่ถือว่าเป็นคลื่นลูกใหม่ที่มาแรงมาก คือ ร้อง เล่นกีตาร์และแต่งเพลงเองด้วย จนถึงขนาดขึ้นอันดับ 1 ของโอริกอนชาร์ตในเวลานั้นคือ YUI(ยูอิ)

ช่วงนั้นผมไม่กล้าซื้อมาบอกตรงๆว่าเคยบ้าซื้ออะไรมาไม่รู้ สุดท้ายฟังไม่ได้ก็เยอะ จนมาเดือนก่อนไปเจอแผ่นนี้ที่ Centeroneก็จัดมาอย่างด่วน

แนวเพลงก็เป็นแบบ อะคูสติกร็อคบ้าง พั้งค์บ้าง ตามที่ฮิตในช่วงนั้น หลายๆเพลงเรียบเรียงดีมากๆ บางเพลงฟังแล้วคุ้นๆนะ(555) คือ...ต้องบอกว่ามาตรฐานเพลงบ้านเค้าค่อนข้างดีกว่าบ้านเราพอควร คือ Open ดนตรีทุกแนว ถามว่าบุคคลากรบ้านเราแย่เหรอ? ก็ไม่นะ คนเก่งๆบ้านเราเยอะแต่...คนเก่งส่วนมากมักไมมีโอกาสหรือต้องตามใจค่ายหรือตลาดน่ะซิ???






วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Zeal...Grow


หวัดดีชาวโลก ห่างจากการซื้ออัลบั้มเพลงไทยไปนานมาก ไม่อยากพูดอะไรมาก คนไทยหลายคนยังหนีไปฟังเพลงนอก ส่วนนึงเพราะเพลงไทยหลายๆตัวที่ออกมาถอยหลังลงคลอง ทั้งดนตรี เนื้อหา รวมไปถึงนักร้องบางคน มีแค่กระแสแรกๆแล้วก็แผ่วเพราะไม่ใช่ของจริง สุดท้ายก็หายไปกับความมืด

มาที่วงนี้เป็นวงที่ผมรู้จักมานานมาก ตั้งแต่ปี 38 ซึ่งเจอกันที่งานประกวดดนตรีรายการนึง เห็นวิวัฒนาการของวงนี้มาตลอด เหมือนวงจะเริ่มหาลายเซ็นต์ตัวเองได้ละ แต่อัลบั้มใหม่จะมีอะไรให้เราติดตามมาดูกัน

ค่ายเดิมคือ More Music ปิดไปแล้ว ทางวงย้ายมาอยู่ค่าย We Record การทำงานชุดนี้ก็มีคนอื่นมาร่วมงานมากมาย ขอวิจารณ์เป็นจุดๆดังนี้นะครับ
* ดนตรีบอกว่าล้ำมากๆ มาตรฐานวงนี้สูงอยู่แล้ว เชื่อขนมกินได้เลย ที่ขอชมอีกอย่างคือ ดนตรีอัดกันเองหมด แม้แต่คีย์บอร์ด สมาชิกในวงก็อัดเองด้วย แจ๋วอ่ะ
* กีตาร์ต้องบอกว่า พี่ชุเมื่อ14-15 ปีก่อนกลับมาแล้ว โซโล่กระจาย Soundดีหนาเป็นลูกๆ มาถูกที่ถูกเวลาแล้วพี่ชุเอ๋ย



     * เบส ชุดนี้เงียบๆนะ ปกติป๊อกนี่ราชาslab bass นี่กลับราบเรียบพิกล แต่อย่างอื่นก็ดีเหมือนเดิมถือว่าผ่านอย.ละกัน



     * กลอง ชุดนี้ลูกข้อมือโปรยสวยๆแบบคนดำเคนจัดเต็ม ไอ้ลูกกรุ๊งกริ๊งแบบก่อนหายไปละ กลายเป็นลายเซ็นต์ใหม่ของเคนไป เยี่ยมๆๆๆ ถือว่าเป็นพัฒนาการใหม่ๆที่ดีทีเดียว
* เสียงร้องก็ตามมาตรฐานของวง ออกมาดีไม่มีเพี้ยนอะไร ผ่านเกณฑ์ครับ

ในส่วนภาคดนตรี ถือว่าสอบผ่าน และออกมาดีมากๆด้วย
แต่...........ในส่วนเนื้อเพลงขอติอย่างแรง คือปกติวงนี้จะเขียนเพลงเองทั้งหมด มาชุดนี้มีคนนอกมาเขียนด้วย เพลงเปิดตัวอย่างเสี้ยมบอกตรงๆว่าฟังผ่านๆเนื้อหาไม่ต่างอะไรจากเพลงเล่นลิ้นของวงมันฝรั่งเท่าไหร่ คือฟังรอบแรกก็ตื่นเต้น แต่นานๆไปเหมือนเพลงดากๆที่หาฟังได้ทั่วไป ยิ่งเพลงสัตว์เลื้อยคลานไม่ทราบว่าใช้สมองส่วนไหนเขียน เจตนาดูดีแต่สื่อออกมาไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ปล่อยให้วงเค้าเขียนเพลงกันเองน่ะดีแล้ว ฟายเอ๊ยยยย

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

มีพัสดุมาส่ง....ชอบอมกันมั้ยยยยยย ภาค 2

ช่วงที่ผมหาข้อมูล มีอีกคนนึงที่เป็นแรงบัลดาลใจคือ แสตมป์ ตัวแสตมป์ใช้กีตาร์สั่งทำทรง OOO ซึ่งเดิมผมมีทรง Dreadnought อยู่แล้ว

ขอย้อนไปนิดกีตาร์โปร่งหลักๆมีอยู่ดังนี้


1.ทรง Dreadnought ทรงนี้เล่นใด้กว้างสุด และทุกแนวแต่ไม่ที่สุด


2.ทรงJumbo ทรงนี้ balance ดีกว่าทรงแรก และดังกว่า เหมาะสำหรับเล่นสตรั้มคอร์ด


3.ทรงOOO/OM เป็นทรงเล็กสุด เหมาะกับการเล่นแบบ fingerstyle เพราะเสียง balance ดีมากและเบสไม่บวม

ปล.ขอบคุณข้อมูลจากเวปนิมิตกีตาร์ครับ ^_^



ย้อนกลับที่แสตมป์...จากการหาข้อมูลอันน้อยนิดก็ทราบว่าตัวที่แสตมป์ใช้นั้น เป็นกีตาร์สั่งทำชื่อ ช่างแหลม ซึ่งผมก็ไม่สามารถหาข้อมูลได้เลยว่า ช่างแหลมเป็นใคร อยู่ที่ไหน???

จากนั้น ผมก็ไปหาข้อมูลช่างทำกีตาร์คนอื่นๆในเวปบ้านสีฟ้า ก็พบว่ามีช่างทำกีตาร์ที่น่าสนใจอยู่หลายคนทีเดียว บางคนก็มีรุ่นและแบบเป็นของตัวเองอยู่แล้ว บางคนก็รับทำตามสั่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องไม้และทัศนคติของผู้ทำและผู้รับทำก็เป็นส่วนนึงที่สำคัญ

ผมเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับการสั่งทำกีตาร์ไฟฟ้า ตอนนั้นบอกตรงๆว่า หน้าตาออกมาไม่ได้อย่างที่คิด เสียงก็ไม่ใช่ แต่...ในเมื่อเราสั่งไปแล้ว จ่ายเงินไปแล้วก็ต้องรับสภาพไป

ในตอนนี้ก็ไม่อยากมีความรู้สึกแบบนั้นอีก เพราะเราควบคุมปัจจัยเหล่านั้นไม่ได้ จึงข้ามมาที่กีตาร์สายโรงงานผลิตทั่วไปแทน

ขอมาเรื่อง Burn กีตาร์โปร่งนิด...เป็นสูตรที่ผมดัดแปลงมาจากอุปกรณ์ตัวนึง มันคือ PrimeVibe เป็นเครื่องสร้างแรงสั่นสะเทือน \สำหรับกีตาร์ หลักการทำงานคือ เครื่องจะสั่นสะเทือนไปตรงไม้หน้าให้กระเพื่อมเป็นจังหวะๆ ทำให้ไม้สั่นในจังหวะที่เหมาะสม สม่ำเสมอ ทำให้เสียงออกมาชัดเจนทุกตัวโน๊ต(กรณีพื้นฐานของกีตาร์นั้นๆดีด้วยนะครับ

ทีนี้จากพุทธปัญญาอีกแล้ว ผมก็มานั่งนึกๆว่า ไอ้การทำงานของเครื่องนี้ เราจะสามารถเลียนแบบด้วยอะไรได้มั่งหว่า???? คิดไปคิดมาก็มีวิธีนึงที่น่าจะใกล้เคียงและใช้ได้ดีด้วย

มีฝรั่งเค้าบอกว่า โรงงานกีตาร์โปร่งเล็กๆในอเมริกาจะเปิดเพลงให้กีตาร์ฟัง

ถามว่า เปิดเพื่ออะไร? กีตาร์โปร่งใหม่ๆแม้จะผ่านการอบมาแล้ว แต่การสั่นสะเทิอนของไม้จากการเล่นยังมีน้อยอยู่มากๆ เค้าก็ใช้วิธีการนี้เพื่อช่วยกระตุ้นให้ไม้มันสั่นสะเทิอนได้ดีขึ้น ส่วนเพลงแนวไหนนี่ผมไม่ทราบเหมือนกัน


เหมือนกับการเบิร์นกีตาร์ไฟฟ้า หรือสายCable แต่กีตาร์โปร่งตัวแรกที่บ้าน ผมก็ลองใช้สูตรนี้ดู ทั้งเปิดเพลงและเล่นกีตาร์ไฟฟ้า-คีย์บอร์ด โดยเอากีตาร์โปร่งมานั่งรับฟังด้วย ครั้งละ 2 ชั่วโมง ทดลองอยู่ 2 อาทิตย์

ผลการทดลอง ถือว่าได้ผลดีมากๆครับ คือ ไม้หน้ามันกระเพื่อมได้ที่ เสียงอวบอ้วน กลม กำลังดี ซึ่งตามโรงงานกีตาร์ฝรั่งเค้าคงเปิดกันเป็นเดือนแน่ๆ ใครจะเอาไปทำตามก็ไม่ว่ากันนะครับ

ขอตัดมาสรุปเลยละกัน ถ้าให้เทียบกับรุ่นต่างๆ ก็ขอตอบแบบความรู้สึกส่วนตัวดังนี้นะครับ

- 28V ถ้าผมจำไม่ผิดมันมีแต่ OM28Vนะ รุ่นนี้เป็นตระกูลVintage ข้อดีมันคือ คงความเป็น Martinตัวนึง และไม้ข้างและหลังเป็นrosewood ซึ่งตัวของผมกลิ่นไม้rosewoodจะแรงมากๆ และให้เสียงคม แต่นวล และเชฟ-คอน่าจะเข้ากับคนเอเชียได้ง่าย


แต่ด้วยความเป็น Martin ที่หากว่าต้องการความเป็นMartin คุณต้องเล่นตระกูลวินเท็จขึ้นไปซึ่งราคามันไม่งามเอาซะเลย ก็ดูว่า...คุณจำเป็นแค่ไหนกับกีตาร์โปร่งตัวนึง สำหรับผม ผมค่อนข้างซีเรียสกว่าไฟฟ้านะเพราะ
1.ไฟฟ้าถ้าเสียงไม่ดีทำไง? เปลี่ยนปิคอัพ , เดินสายเงิน , เปลี่ยนคาปาฯ ฯลฯ ...โปร่งทำไม่ได้
2.ไฟฟ้าอยากเปลี่ยนเสียงทำไง? ต่อเอฟเฟค...โปร่งทำไม่ได้
ดังนั้น สำหรับผมการซื้อมาลองแล้วขายทิ้งทีหลัง จึงไม่ตอบโจทก์ตรงนี้ อันนี้ส่วนตัวนะครับ


omjm อย่างที่บอกกระทู้ก่อนว่า ผมชอบนะ ชอบมากๆ คืองานสวยเนี้ยบ เกรดไม้สวย แต่...ราคามันแรงไป และเป็น Limited คำว่าลิมิเต็ดไม่ใช่ว่าดีนะ คือ เดิมทีเนี่ยคนที่บ้าและสะสม Martinกันเค้าจะเล่นพวก prewar คือรุ่นก่อนสงครามโลก , รุ่น golden era marquis หรือ พวกรุ่น vintage คือ Martinเนี่ยเค้าจะคัดเกรดไม้ตั้งแต่รุ่น 28 เป็นต้นไป หมายถึงความสวยงามของหน้าไม้ การอบไม้ แหล่งที่มาของไม้ ซึ่งรุ่นต่ำกว่านี้มีหลากหลายรูปแบบ เช่น ไม้เอามาอัดหลายๆชั้นแล้วขึ้นคอ หรือ วัสดุสังเคราะห์ต่างๆสำหรับคนงบน้อย

มีพัสดุมาส่ง....ชอบอมกันมั้ยยยยยย

ช่วงหลังๆมานี่เหมือนเริ่มท้อๆกับกีตาร์ไฟฟ้ายังไงไม่ทราบ เรื่องอุปกรณ์ไม่อยากตามเพราะเริ่มเบื่อๆ ผมเล่นอยู่ไม่กี่แนวเอง(เล่นไม่เก่ง) ไม่อยากลองผิดลองถูกอีก เพลงก็เริ่มฟังเบื่อๆ ก็เลยกลับไปเล่นเปียโนพักนึงเหมือนจะพบโลกเก่าๆที่คุ้นเคยอีกครั้ง

เล่นไปเล่นมาเริ่มจะหลอนหนัก พาลจะหา 88 คีย์มาเล่นแต่...ณ ตอนนี้คงมีแต่ Kronosเท่านั้นที่พอเยียวยาได้ ดังนั้นก็..จบข่าว 555

จากการเล่นเปียโนก็พบว่าเสียงธรรมชาติเพียวๆนี่มันจรรโลงหูดีแท้ แถมปี-สองปีที่ผ่านมานี่ผมเริ่มบ้า Depapepe ตามฟังตามเกือบหลายชุดเหมือนกัน จะเป็นที่มาของเจ้าตัวนี้

ที่บ้านผมเดิมมีกีตาร์โปร่งตัวนึงแล้วเป็นของเวียดนาม All Solid ซื้อเมื่อ 6 ปีก่อน ถามว่าชอบมั้ย? ก็ชอบนะแต่...ไม่ที่สุดคือ ผมชอบเสียงมันนะเสียงopenมาก ได้อารมณ์เนื้อไม้เต็มที่เวลาสตรั้มคอร์ด เฟรมไม้สวยงาม(ประมาณ AAได้) ราคาไม่แพงมาก

แต่...คอต้องบอกว่ายังไม่ผ่านอย.คือเล่นไปนานๆแล้วเหนื่อยพอควร คือ ค่อนข้างใหญ่ประมาณ U เวลาเคลื่อนมือนี่เมื่อยมากๆ และผมใช้เวลา Burn ตัวนี้นานเหมือนกันกว่าเสียงมันจะเปิด


ไอ้ครั้นจะไปเหลาคอคงไม่คุ้ม สู้หาอีกตัวดีกว่า ผมจึงใช้เวลาตั้งแต่กลางปีที่แล้วเก็บข้อมูลพักนึงและออกตระเวนลองโน่นลองนี่ไปเรื่อย

แรกเริ่ม...ผมตัดบางยี่ห้อที่คิดว่าไม่ชอบก่อน ต้องบอกว่าเรื่องรูปร่างหน้าตามีผลเหมือนกัน ไอ้ยี่ห้อที่ไม่สมประกอบ ตัวแหลมๆ หัวโตๆนี่ตัดไปเลย บางคนบอกว่าเอาเสียงมาก่อน แต่สำหรับผมมันทำใจลำบากอ่ะ

สอง...ผมนั่งเก็บข้อมูลแต่ละรุ่นที่สนใจจากเวปต่างๆ ต้องบอกว่าส่วนใหญ่มาจากบ้านสีฟ้าและที่นี่นะครับ ได้ข้อมูลเยอะเลย ขอบคุณมา ณที่นี้ด้วย

สาม...หลังจากเก็บข้อมูลได้ที่ก็ถึงเวลาออกภาคสนาม ผมดูไว้หลายรุ่นเหมือนกัน

Cole Clake เป็นของออสเตรเลีย ก็งานดีนะ ราคาที่ตัวแทนเอามาก็ดีเลยล่ะ แต่...ของเค้าสต๊อคน้อยมาก และผมอยากได้ไม้หลังและไม้ข้างเป็น rosewoodมากกว่า ซึ่งไม่มีก็ตัดออกไป
Guild ผมลองทั้งของจีนและอเมริกา งานดีมากๆนะ โดยเฉพาะของจีนราคาสวยทีเดียว แต่...ผมไม่ชอบหัวมัน โตเกิ๊น อย่างอื่นก็ถือว่าดีหมด

Larrivee น่าจะเป็นอะไรที่ใกล้เคียงที่สุด งานรวมๆดีมากๆ เกรดไม้ดี สวยงาม ผมได้ลองตัว Customshop ก็หลงรักตั้งแต่แรกเห็น เสียงก็โอนะ ติดที่มันทึบๆ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาพักใหญ่ๆกว่าจะเข้าที่


ในร้านเดียวกันมีกีตาร์อยู่ยี่ห้อนึงที่เป็นตำนาน 100 กว่าปีคงไม่สุกเอาเผากินแน่นอน มันคือ Martin นั่นเอง จากแรกๆที่เฉยๆ พอได้ลองก็รู้สึกของเค้าดีจริง งานเรียบๆแต่ดูขลัง เสียงใช่ คอใช่ บอดี้อะไรได้หมด กลับบ้านมาก็เลยศึกษาข้อมูลเพิ่มขึ้นอีก ว่ารุ่นไหนอะไรยังไง จนได้รุ่นที่ส่งเข้าประกวด 3 รุ่น

ตัวแรก OOO28EC รุ่นเล็กสุดของ Clapton ตัวนี้เหมือนฟ้าไม่ได้ส่งมาให้ผม เพราะวันที่จะไปลองก็ของหมด ไปอีกสาขาก็มีคนจอง ของมาเดือนธันวานี้ก็เลยตัดไปซะ

ตัวที่ 2 OMJM เป็นรุ่นเล็กของ John Mayer ตัวนี้ไปลองมาที่สาขานึงก็เหมือนจะต้องตาต้องใจไปซะทุกอย่าง คือเสียงดีมากๆ ออกแผดๆหน่อยเล่นบลูส์มันเลยล่ะ เบา คอที่เป็นมิตร และเกรดได้ดีมากๆ แต่ราคามันค่อนข้างแรงไปหน่อย และจากการเช็คหลายแหล่งข่าว กีตาร์ตัวนี้(ที่ร้านดังกล่าว)มีประวัติบางอย่างซึ่งผมมองว่ามีมูลพอควร คือ กีตาร์ all solid ปกติจะมีกลิ่นได้ของพันธุ์นั้นๆ แต่ตัวนี้ไม่มีกลิ่นออกมาเลย และไม้ชื้นมากๆ (มีข่าวว่ากีตาร์ตัวนี้เคยเล่นน้ำสงกรานต์มา ^^")
ทีนี้ผมเลยมาเช็คว่ามีใครรับสั่ง Martinบ้างในบ้านเราก็เจอคุณวี Save a lot ซึ่งจากคำแนะนำของคุณวีผมได้รับข้อมูลและความรู้ที่เป็นประโยชน์มากๆ คุณวีแนะนำให้ผมลองดูรุ่นนึงซึ่งเป็นตระกูล Vintage Series คือ ถ้าจะเล่น Martin Original ต้องเล่นตระกูลนี้เท่านั้น นั่นคือรุ่น OM28V ครับ เลยจัดการสั่งของไปเรียบร้อย ขอบคุณคุณวีมา ณ ที่นี้ด้วยที่เป็นธุระจัดการให้และส่งให้ถึงที่

ตัวนี้จัดเป็นกีตาร์โปร่งตัวที่สองในชีวิตครับ OM28Vนี่เค้ามีชื่อเรื่องการเล่นฟิงเกิ้ลสไตล์ ซึ่งเหมาะกับคนมือเล็กๆอย่างผมที่สุด 555

ตัวบานล็อคที่กล่องนี่เยอะมากๆ