วันนึงในเดือนตุลาคม
2559
ผมก็เพิ่งรู้ว่า ไอ้เมนูเมจิหยดน้ำ หรือ Raindrop Cake มันจะดังมากในหมู่เด็กๆ ถึงขนาดเจ้าหมูดำต้องร้องมากินที่ร้าน kyo roll en กับเค้าด้วย
มาดูประวัติคร่าวๆกันครับ
ขนมชนิดนี้ในญี่ปุ่นเรียกว่า “มิซึชินเกนโมจิ”
เดิมทำจากน้ำแร่ผสมกับแป้งข้าวเหนียวแบบเดียวกับขนมโมจิทั่วไป
จนกระทั่งร้าน “คินเซเคน” ร้านขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่นในเมืองโฮคุโตะ
จังหวัดยามะนะชิ ได้ปรับปรุงสูตรโดยใช้วุ้นเจลาตินผสมกับน้ำแร่แทนแป้งข้าวเหนียว
ทำให้ได้โมจิที่ใสดุจหยาดฝน เมื่อกินคู่กับผงถั่วเหลืองป่นและน้ำเชื่อมน้ำตาลแดง
ให้ความรู้สึกสดชื่นหอมหวาน แต่ไม่หวานเอียน
ขนมที่ทำให้ “น้ำเคี้ยวได้” นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น
แต่เนื่องจากตัวขนมคงรูปอยู่ได้เพียงแค่ 30 นาที ทางร้าน“คินเซเคน” จึงผลิตจำหน่ายจำนวนจำกัด
และต้องรับประทานที่ร้านเท่านั้น
ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากยอมเดินทางไกลจากฮอกไกโดหรือเขตคันไซ
เพื่อมายังร้านขนมในพื้นที่ชนบทในจังหวัดยะมะนะชิ
และต่อแถวนานนับชั่วโมงเพื่อชิมขนมโมจิหยาดฝนนี้
หลังจากนั้น ร้านขนมในต่างประเทศ เช่นที่เกาหลีใต้
รวมทั้งเชฟชื่อดังของสหรัฐฯ
ได้ทำขนมแบบเดียวกันนี้ขึ้นจนได้รับความนิยมอย่างมากในต่างแดน สื่อมวลชนในสหรัฐฯ
ทั้งรายการโทรทัศน์, หนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ต่างกล่าวขวัญถึง
“น้ำที่เคี้ยวได้” จากญี่ปุ่นอย่างแพร่หลาย
ร้านขนมญี่ปุ่นที่เป็นต้นตำรับขนมโมจิหยาดฝน ระบุว่า
ขนมของทางร้านมีความพิเศษที่ใช้น้ำแร่จากภูเขาในจังหวัดยะมะนะชิ
ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “เทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่น” ซึ่งขนมแบบเดียวกันในต่างประเทศไม่สามารถใช้น้ำที่บริสุทธิ์แบบเดียวกันได้
เนื่องจากขนมโมจิหยาดฝนต้องทำด้วยมือ
ในแต่ละปีทางร้านจึงผลิตขนมได้ในจำนวนจำกัด โดยในปี 2016 นี้จะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกันยายนเท่านั้น
และจำหน่ายเฉพาะในวันเสาร์และวันอาทิตย์
Credit : http://www.manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9590000038859
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น