วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2559

Yamaha MoxF8


ขอท้าวความเดิมเผื่อบางท่านยังไม่เคยอ่าน เดิมผมเป็นมือคีย์บอร์ดครับ (จริงๆก็เป็นนั่นล่ะ !!!) พอเรียนจบมหาลัยก็หยุดเล่นไป เลิกเล่นวงไปด้วย เผอิญมีเพื่อนในคณะมายัดเยียดขายกีตาร์ไฟฟ้าทั้งที่เล่นไม่เป็นเลยได้เริ่มเล่นกีตาร์ครั้งแรกตอนอายุ 21 แล้วก็เล่นมาตลอด คีย์บอร์ดตัวเดิมที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาก็นอนในกล่องนับแต่นั้น 

พอปี 2555 ลูกสาวผมเรียนเปียโนต้องหาอะไรมาซ้อมมือ จึงได้รื้อเจ้านี่มาบูรณะครั้งใหญ่ ผมก็ต้องมีการรื้อฟื้นวิชา กลับมาฝึกใหม่อีกครั้งเช่นกัน 


แต่....มันไม่จบแค่นี้ครับ อุอุ 


 เมื่อลูกสาวผมเรียนเปียโนระดับสูงขึ้นไป สกิลยากขึ้นเรื่อยๆ Keyboard 61 keys ไม่เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ประกอบกับสัมผัสของคีย์บอร์ดกับเปียโนมันต่างกันมาก ทำให้เราต้องมองหาอะไรใหม่ๆเข้ามา

น้ำหนักคีย์สำหรับคีย์บอร์ด จะมี 3 ระดับ 
1.unweighted
2.semi-weighted 
3.weighted keys

unweighted keys
จะเป็นพวกคีย์บอร์ดทั่วไป ราคาต่ำๆถึงกลางๆ

semi-weighted keys
จะเป็นในคีย์บอร์ดไม่กี่รุ่น ราคาสูงนิดนึงถึงสูงมาก จะหน่วงมือนิดหน่อย แต่ไม่ถึงระดับเปียโน

weighted keys
จะเป็นพวกเปียโนไฟฟ้า หรือคีย์บอร์ดรุ่นสูง พวกนี้จะจำลองความหนักและหน่วงของเปียโนมาครับ แล้วแต่รุ่น แล้วแต่ยี่ห้อ แต่ละรุ่นจะไม่เหมือนกัน

ทีนี้ สิ่งที่เราอยากได้คืออะไร และมีงบรองรับเพียงพอหรือไม่

จากสิ่งที่เราอยากได้มาสู่คำถามที่ต้องถามตัวเองเสมอเวลาเราจะซื้อของว่า 
1.เราอยากได้อะไรในตัวสินค้านั้น
2.ในงบประมาณที่เท่ากัน มีสินค้ารุ่นที่ใกล้เคียงหรือเทียบเท่าหรือไม่
3.มีงบประมาณรองรับหรือไม่


จากประเด็นแรก สิ่งที่ผมอยากได้คือ คีย์บอร์ด 88 คีย์ไว้ให้ลูกสาวซ้อมมือ และให้ตัวเองซ้อมด้วย ซึ่งถ้า choice นี้จะคิดไม่ยากเลย เพราะเปียโนไม้ราคาสูงผมไม่มีปัญญาแน่ๆ บ้านก็หลังติ๊ดเดียวไม่มีที่วางอีก แฮะๆๆ 

จึงมาคิดถึงเปียโนไฟฟ้า บ้านเราราคาไม่แพงและมีบริการส่งถึงบ้านด้วย เพื่อนๆผมที่มีลูกเรียนเปียโนก็ซื้อแบบนี้กันทั้งนั้น วันหยุดเสาร์อาทิตย์เราจึงได้ไปนั่งเล่นและทดสอบเปียโนไฟฟ้าตาม Powerbuy ร่วมเดือนได้

แต่หลังจากที่ไปนั่งลองก็รู้สึกว่า มันไม่ใช่ น้ำหนักคีย์มันได้ครับ แต่เสียงมันไม่ได้จริงๆ..

ผมเริ่มตัด Choice ออกไปทีละนิดทั้งเปียโนไม้ เปียโนไฟฟ้า แล้วเริ่มกลับมามองคีย์บอร์ดที่เป็น 76-88 คีย์

สำหรับคีย์บอร์ดมือสองบ้านเรา 88 คีย์ไม่ค่อยมีใครขาย ส่วนมากจะเป็นเปียโนไฟฟ้า และ Stage เปียโนจริงๆ (อาจจะนานๆมาทีแต่ก็ยังแพงมาก) ซึ่งราคายังถือว่ายังสูงอยู่ 

Korg
เป็นตัวเลือกแรกๆที่อยู่ในใจผมมาตลอด มีรุ่นที่น่าสนใจอยู่หลายตัว ผมก็ใช้เวลาในวันหยุดไปทดสอบอยู่ 4-5 เดือนจนได้รุ่นที่น่าพอใจมารุ่นนึง สอบถามราคาก็คิดว่าเป็นไปได้ ก็เตรียมเงินจะไปซื้อเรียบร้อยในเดือนถัดไปครับ... 

จะว่าความสับเพร่าของผมเองด้วยที่ไม่โทรไปเช็คก่อนล่วงหน้า ถึงเวลาไปปรากฎว่าของหมดและต้องรออีกพักใหญ่ เลยต้องรอตามคิวอย่างเดียวครับ

พอไปอ่านรีวิวที่เวปเกี่ยวกับคีย์บอร์ดเลยทราบว่ารุ่นนี้มีคนไปเขียนรีวิวไว้ ทำให้กระแสดี คนตามหากันพอสมควร จากเหตุการณ์นี้เลยหยุดไปเพียงเท่านี้ครับ และเริ่มหาข้อมูลเพิ่มตัวถึงข้อเสียเจ้านี่บ้าง

ซึ่งจากการหาข้อมูลทั้งจากเวปในบ้านเราและสื่อฝรั่งเองก็บอกตรงกันว่า เจ้านี่มีปัญหาตรงที่บู๊ทเครื่องได้ช้ามาก เนื่องด้วยระบบปฏิบัติการของเค้าที่กินทรัพยากรเยอะ ใช้เวลาเกือบๆนาที เรียกว่าน้องๆคอมพิวเตอร์เครื่องนึงเลย ถ้าไปเล่นตามร้านหรืองานด่วนนี่ตายอย่างเดียวครับ และเจ้านี่มีคนบ่นเรื่องรวนบ่อยมาก ต่อมา ก็มีคนขายทิ้งเจ้ารุ่นนี้เยอะไปหมด (ไม่ขอบอกว่ารุ่นไหนยี่ห้ออะไรนะครับ แฮะๆๆ)

เมื่อได้เหตุผลมาแบบนี้ โจทย์ใหม่คือ ผมจึงมองหายี่ห้ออื่นๆเพื่อเปรียบเทียบครับ 

ย้อนกลับมาที่คีย์บอร์ดตัวเดิมครับ ตัวเก่าของผมที่ใช้อยู่คือ Korg X3 ซึ่งเป็น Music Workstation ถามว่า Music Workstation คืออะไร

Music Workstation
หมายถึง คีย์บอร์ดที่มีความสามารถในการกำเนิดเสียง (เป็น Sound Module) ไม่ว่าจะผ่านสัญญาณ Midi หรือ Keyboard สามารถบันทึกเสียง หรือ Midi รวมถึงสามารถทำหน้าที่เป็น Sampler และ Sequencer ได้ 

พูดง่ายๆว่า Music Workstation ตัวเดียวใช้ทำเพลงจบเลย ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว มักมีส่วนประกอบของ Synthesizer อยู่ภายใน 

(
อ้างอิงจาก http://www.patid.com/forums/thread-1315.html )

ทีนี้ ความจำเป็นใช้แค่ Sythesizer ธรรมดาๆก็ได้มั้ย ไม่ต้องถึงกับใช้เจ้านี่หรอก?
อันนี้ก็แล้วแต่คนใช้งานครับว่าซีเรียสเรื่องเสียงและการใช้งานแค่ไหน พเปรียบเทียบง่ายๆว่า แอมป์หลอดแพงๆกับแอมป์ทรานซิสเตอร์ตัวไม่พัน มันก็ดังเหมือนกัน จะซื้อแพงๆทำไม? อันนี้น่าจะตอบคำถามเรื่องเดียวกันได้

การบ้านครั้งใหม่ผมคือ การศึกษาข้อมูลจากคีย์บอร์ดยี่ห้ออื่นๆครับ บ้านเราหลักๆก็มี Roland Nord Kurzwiel และ Yamaha

Roland
ตัดไปได้เลยครับ ผมไม่ชอบ Sound และระบบการทำงานของเค้า บายเลยดีกว่า

Nord
นี่ก็ผ่านเหมือนกัน ราคาถือว่าสูงและลงทุนมากเกินตัวเราไปหน่อย

Kurzwiel
นี่ก็ไม่เก็ทกับระบบเค้าครับ ไปลองเล่นดูแล้วไม่โดนจริงๆ

ก็เหลือแต่ Yamaha ก่อนหน้านี้ผมรู้จักแต่ Yamaha เพราะสมัยเด็กๆเคยใช้ PRS8 และได้ลองพวก Yamaha W5 W7 เมื่อนานมาแล้ว รุ่นล่าสุดคือ Motif ซึ่งจะว่าไปเป็นรุ่น Top สุดของเค้า ราคาก็แสนกว่าๆก็ดูจะลงทุนเยอะไปอีกกะอีแค่คีย์บอร์ดใช้ซ้อมมือ

หลังจากนั้น ผมไปหาข้อมูลใน Youtube ก็ไปเจอรุ่นนี้ครับ Yamaha MoxF8 ซึ่งคุณโซ่ ETC ได้ทำคลิปแนะนำไว้ 

พูดง่ายๆคือ....
MoxF เป็น Music Worstation รุ่นย่อส่วนจาก Motif อีกที
MoxF ทำงานเหมือน Motif ทุกประการ
MoxF ใช้ Sound Library เดียวกับ Motif แต่ Layer เสียงอาจจะไม่หนาเท่า

MoxF ถูกกว่า Motif ครึ่งนึง อันนี้สำคัญสุดครับ 5555

เช็คราคาจากสำนักงานใหญ่ ถือว่าทำราคาได้โอเค และกระแสตอบรับในบ้านเราดีมากๆ จึงไปเข้าคิวกับเค้ามาตัวนึงเมื่อต้นปี 57 จนกุมภาพันธ์ 58 ถึงได้มาครับ (รอนานมาก T T) 

จุดเด่นของ Yamaha คือ Natural Sound คือให้เสียง Acoustic ที่เป็นธรรมชาติมากๆ ได้แก่พวกเสียงเปียโนไม้ String violin ฯลฯ เรียกได้ว่าเจ้านี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องนี้เลย เราจึงเห็นชาวแจ๊สส่วนใหญ่ใช้ยี่ห้อนี้ครับ ^^ 

























ฟังก์ชั่นการทำงาน บอกตรงๆว่า ณ ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยคล่องนะครับ แฮะๆๆ


ตอนนี้ใช้ซ้อมมือ และตอนนี้ผมกลับมาเล่นดนตรีกับพี่ๆเพื่อนๆใหม่ เลยถือว่าได้ใช้งานเยอะเลยล่ะ


























สำหรับใครที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปศึกษาได้จากเวปของยามาฮ่านี้เลยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น